เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการโอนสำนวนคดีขยายผลขบวนการค้าลิงแสมข้ามชาติว่า ทาง บก.ปทส.ได้ประมวลเรื่องเสนอ ตร.พิจารณาเพื่อขอโอนคดีจาก สภ.ศรีมหาโพธิ มาให้ทาง บก.ปทส.รับผิดชอบในการขยายผล ซึ่งขั้นตอนขณะนี้ทาง บก.ปทส.ได้ประมวลเรื่องส่งให้ทาง บช.ก. เพื่อเสนอต่อ ตร.เพื่อพิจารณาอยู่ในขั้นตอนตามลำดับชั้น ทั้งนี้ ในส่วนของการสืบสวนขยายผลทาง บก.ปทส. ได้จัดชุดทำงานตามแนวทางสั่งการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. โดยให้ทาง พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา เป็นหัวหน้าชุด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวน
ในส่วนของการปราบปรามขบวนการค้าซากสัตว์และสัตว์ป่า ทาง บก.ปทส.ได้ให้ความสำคัญ ตามม็อตโตที่ว่า “พิทักษ์ผืนป่า รักษาสิ่งแวดล้อม ถนอมชีวิตสัตว์” โดยมีข้อมูลในการเฝ้าระวังอีกทั้งเน้นย้ำการปราบปราม ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ารูปแบบของแผนประทุษกรรมของขบวนการนี้มีลักษณะคล้ายๆ กัน และทำเป็นรูปแบบเดิมๆ ซึ่งจะมีการค้าสัตว์หลายประเภท อาทิ เสือ งาช้าง นอแรด ลิ่ม นก ลิงอุรังอุตัง เป็นต้น แต่ในส่วนของลิงแสม ถือเป็นสัตว์ใหม่ ที่กำลังนิยมของขบวนการนี้
พล.ต.ต.พิทักษ์กล่าวว่า โดยก่อนหน้านี้ปลายปีที่ผ่านมา ทาง บก.ปทส.ได้รับการประสานข้อมูลจากทางการสหรัฐอเมริกา และองศ์กรระหว่างประเทศที่คุ้มครองสัตว์ป่า ถึงการลักลอบนำเข้าลิงอุรังอุตังจากประเทศอินโดนีเชีย และใช้ไทยเป็นทางผ่านในการลำเลียง โดยลิงดังกล่าวเป็นลิงอุรังอุตังของกลางวัย 4 ปี ชื่ออุ๋งอิ๋งและนาตาลี ที่ถูกลักลอบนำเข้าประเทศไทยผ่านทางด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย และถูกตรวจยึดโดยเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของประเทศไทย หลังจากการดำเนินคดีถึงที่สุดแล้วรัฐบาลไทยพิจารณาที่จะส่งลิงอุรังอุตังทั้งสองกลับคืนสู่ถิ่นกำเนิดประเทศอินโดนีเซียตามคำขอของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศต้นทาง โดยกรณีนี้พบว่ามีการลำเลียงมาจากประเทศอินโดนีเชีย และใช้ จ.สงขลาในการส่งไปยังประเทศปลายทาง
จากการดำเนินการครั้งนั้นทาง บก.ปทส.ได้หารือแนวทางแลกเปลี่ยนข้อมูลและการเฝ้าระวังเพิ่มเติม จนพบว่ามีการลักลอบลำเลียงลิงแสมส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้พื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศไทยเป็นเส้นทางลำเลียง ซึ่งหลังรับการประสาน ตนได้ให้ทาง พ.ต.อ.อนรรฆ ประสงค์สุข ผกก.2 บก.ปทส. ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออก หาข้อมูลในทางลับ ประจวบเหมาะกับการที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมได้ในขณะนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ขบวนการค้าพันธุ์สัตว์ป่า ยังคงใช้รูปแบบเดิม โดยเส้นทางของขบวนการนี้ ต้องยอมรับว่าประเทศไทยมีบทบาทสำคัญ ในฐานะถูกใช้เป็นเส้นทางผ่านหลักจากผู้ส่งต่อจากประเทศต้นทาง ที่สำคัญอย่างน้อย 6 ประเทศ คือ พม่า อินโดนีเซีย มาเลเซีย อินเดีย กัมพูชา และลาว สู่ประเทศปลายทางคือ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น และประเทศในทวีปยุโรป อีกทั้งมีสัตว์บางประเภทที่ต้นทางมาจากประเทศไทย
นอกจากนี้ พบข้อมูลว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีความต้องการสัตว์ป่ามากเป็นอันดับต้นๆ ตามอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ พื้นที่บริเวณชายแดนเป็นพื้นที่มีการซื้อขายกันมาก เพื่อการบริโภคเนื้อเปิบพิสดาร ด้วยความเชื่อที่ว่าเป็นยาอายุวัฒนะ ประกอบยารักษาโรค และการสะสมประดับบารมี ด้วยเหตุนี้ทำให้การลักลอบค้าสัตว์ป่า งาช้าง และสัตว์ป่าแปลกๆ ทวีความรุนแรงมาก จนถูกยกระดับเป็นอาชญากรรมข้ามชาติเพราะว่ามีมูลค่าสูง
