‘แม่น้องการ์ตูน’หวั่นชวดเงินชดเชย ร้อง’ยุติธรรม’สืบทรัพย์คู่กรณี ซิ่งชนหนูน้อยสาหัส

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 กันยายน ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) น.ส.ศรัญญา ชำหนิ แม่ของน้องการ์ตูน ผู้เสียหายจากอุบัติเหตุรถกระบะของ น.ส.น้ำผึ้ง ใจเสงี่ยม พุ่งชนร้านสเต๊กของครอบครัว น.ส.ศรัญญา เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2557 เป็นเหตุให้นายภานุทัต ศักดิ์สืบพรรณ สามีของ น.ส.ศรัญญาเสียชีวิต และน้องการ์ตูน ลูกสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ภายหลังจากล่าสุดเกิดความกังวลใจว่าจะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากทางคู่กรณีหรือไม่ หลังศาลตัดสินจำคุกจำเลยและชดใช้ค่าเสียหาย 6 ล้านบาท

น.ส.ศรัญญากล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากคู่กรณีแต่อย่างใด ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ ตนได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก จนทำให้คนทั่วไปเกิดความเข้าใจผิดว่าคู่กรณีเป็นบุคคลล้มละลายนั้น ยืนยันว่าศาลยังไม่มีคำสั่งฟ้องคู่กรณีให้เป็นบุคคลล้มละลายแต่อย่างใด แต่ที่เขียนว่าหลังจากนี้จะอีก 10 ปี หรือ 3 ปี หากเขาโดนฟ้องล้มละลาย และไม่มีทรัพย์สินอะไรให้เราเลย เราก็จะได้กระดาษเพียงแผ่นเดียว ทั้งนี้ถามว่าเหยื่อที่ถูกกระทำอย่างนี้จะมีสักกี่รายก็ตาม ที่ไม่ใช่กรณีของตนเพียงรายเดียว จะมีการเยียวยาอย่างไร และมีวิธีให้การช่วยเหลือที่ครอบคลุมอย่างไรบ้าง ไม่เช่นนั้นเขาก็ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างเรา และเป็นเหยื่อที่ไม่ได้รับการเยียวยา หากจะว่ากฎหมายไม่ครอบคลุมก็ไม่ได้ ตนเข้าใจกฎหมายดี แต่อยากให้กฎหมายเข้าใจความรู้สึกของเราด้วย ดังนั้นในวันนี้จึงมาร้องให้กองทุนยุติธรรมช่วยเหลือ

ด้านนายธวัชชัยกล่าวว่า เบื้องต้นกองทุนยุติธรรมได้รับเรื่องไว้ และจะตั้งทนายความเข้าช่วยเหลือในกระบวนการไกล่เกลี่ย และดำเนินการสืบทรัพย์ว่าคู่กรณีมีทรัพย์สินใดบ้าง เพื่อนำไปสู่กระบวนการของพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ของกรมบังคับคดีต่อไป อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าทรัพย์สินจะเป็นในนามชื่อสามีของ น.ส.น้ำผึ้งก็สามารถนำมาชดใช้ได้ เพราะหากเป็นแม่น้องการ์ตูนทำคนเดียวคงไม่ไหว ตรงนี้เป็นหลักการเบื้องต้น พร้อมทั้งให้แม่น้องการ์ตูนนำหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมายื่นในวันนี้ ส่วนหลังจากนี้จะเข้าสู่กระบวนการบังคับตามคำพิพากษาต่อไป

นายธวัชชัยกล่าวต่อว่า อยากนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการเจรจาก่อน ได้สอบถามแม่น้องการ์ตูนแล้วว่าพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการเจรจาหรือไม่ แม่น้องการ์ตูนก็ตกลง ตนเข้าใจทั้งสองฝ่าย อีกทั้งลักษณะของคนไทยเหมือนกับการที่ลูกไม่กล้ากอดแม่ หรือกล่าวคำขอโทษใครก่อน มันไม่สามารถทำเหมือนสังคมต่างประเทศที่ทำได้ เหมือนกับการที่ไม่กล้ามาคุยกัน ดังนั้นต้องอาศัยคนกลางมาเป็นผู้ประสาน หากไม่มีใครเป็นคนกลาง ตนก็ยินดีจะเป็นคนกลางให้ในเบื้องต้นก่อน หากการเจรจาไม่ได้ก็ต้องเป็นกระบวนการทางกฎหมายดำเนินไป

รองปลัด ยธ.กล่าวด้วยว่า อยากบอกลูกหนี้ที่เป็นผู้ที่ได้กระทำผิดตามคำพิพากษาว่าให้มาคุยกัน เพราะการนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไม่มีอะไรดีขึ้นทั้งสองฝ่าย เราต้องมาคุยกันว่าจะทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้เรายังไม่มีการประสานไปยังคู่กรณีของแม่น้องการ์ตูน สิ่งแรกเราจะดูตามคำพิพากษาว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง สมเหตุสมผลหรือไม่ หลังจากคุยเสร็จแล้วหากไม่ได้ ค่อยว่ากันไปตามกฎหมายอีกครั้ง

ADVERTISMENT