ตร.พบลายนิ้วมือคาดของคนร้ายซุ่มฆ่านายก ทต.ป่างิ้ว คาดปมสั่งห้ามรถขนหินทรายวิ่งทำถนนพัง

วันที่ 6 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุะปืนลูกซองยาวทำการซุ่มยิงนายประสิทธิ์ กอหลวง นายกเทศมนตรี ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย จนเสียชีวิตขณะนั่งรับประทานอาหารอยู่ข้างบ้านเลขที่ 64  หมู่ 1 ต.ป่างิ้ว อ.เวียงป่าเป้า จ.ดเชียงราย ว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 (จ.ลำปาง)พร้อมด้วยตำรวจวิทยาการเชียงราย นำกำลังเข้าทำการตรวจสอบบริเวณโดยรอบบ้านเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยเน้นการตรวจบริเวณริมรั้วข้างบ้านซึ่งมีต้นมะม่วงขนาดใหญ่ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายซุ่มยิง ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้พบลายนิ้วมือซึ่งคาดว่าอาจเป็นของคนร้ายติดตามต้นกล้วยในจุดที่ซุ่ม และมีรอยเขม่าดินปืนติดตามใบมะม่วง แต่ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าคนร้ายเป็นใครที่ชัดเจน
พล.ต.ต.สันติ์ สุขวัจน์ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 ( จ.ลำปาง) เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่พยายามจะเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุให้ได้มากที่สุดเพื่อไปเทียบเคียงกับผู้ต้องสงสัยหรือแฟ้มประวัติมือปืนในการหาตัวคนร้าย แต่ในที่เกิดเหตุมีหลักฐานน้อยมากจึงอาจต้องใช้เวลาในการทำงานก่อน และยังไม่ทราบจำนวนของคนร้ายว่ามีกี่คน แต่น่าจะเป็นมือปืนที่มีความตั้งใจหมายเอาชีวิตอย่างแน่นอนไม่ได้เป็นการข่มขู่ เนื่องจากใช้ปืนลูกซองยาวยิงในระยะประชิดไม่กี่เมตรซึ่งมีความแม่นยำโอกาสพลาดเป้านั้นมีน้อยมาก
ด้านนายเกรียงไกร กอหลวง อายุ 53 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่าที่ผ่านมาพี่ชายนั้นเป็นคนดี มีนิสัยรักเพื่อนฝูงและประชาชนทั่วไปทำให้เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไปจึงไม่มีศัตรูที่ไหน ส่วนการปล่อยเงินกู้ในรูปแบบการขายฝากหรือจำนองก็เป็นการช่วยเหลือคนขัดสน ซึ่งก็ไม่ได้ใจร้ายที่จะยึดทรัพย์สินใครง่ายบางรายทวงเงินหลายรอบไม่จ่ายพี่ชายก้ไม่ได้ว่าอะไรมีบางรายที่ไม่ยอมจ่ายจริงๆถึงยึดจึงไม่น่าจะมีใครอาฆาตแค้นถึงขั้นมาลงมือสังหาร ซึ่งทางตนคิดว่าน่าจะมาจากบริหารงานภายใน อบต.ที่ทางพี่ชายดำรงตำแหน่งอยู่มากกว่า
รายงานข่าวแจ้งว่านายประสิทธิ์ ผู้ตายถือเป็นเป็นคนที่กว้างขวางในแวดวงการเมืองท้องถิ่นเนื่องจากก่อนมาเป็นนายกเทศมนตรีตำบลป่างิ้ว เคยดำรงตำแหน่ง สจ.เขตพื้นที่เวียงป่าเป้ามาแล้วถึง 4 สมัยเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่เป็นอย่างดี โดยก่อนเกิดเหตุพบว่ามีความขัดแย้งกับกลุ่มนายทุนบางกลุ่มที่เข้ามาดำเนินกิจการเกี่ยวกับการค้าหินและทราย มีรถยนต์บรรทุกลากเข้าออกพื้นที่ส่งผลทำให้ถนนพังทำให้ทาง อบต.ป่างิ้วมีคำสั่งห้ามรถบรรทุกวิ่งผ่านถนสายดังกล่าวทำให้กิจการได้รับผลกระทบ แต่ทั้งนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นมูลเหตุจูงใจถึงขั้นมาสังหารครั้งนี้หรือไม่ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนพยานที่เกียวข้องตลอดจนหาข่าวเชิงลึกโดยยังเน้นประเด้นไปที่การหาผู้ขัดแย้งในส่วนของการปล่อยเงินกู้ซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัวของผู้ตายอยู่