ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 กันยายน ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันเอก ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ชี้แจงกรณีมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิดบริเวณร้านขายของชำตรงข้ามโรงเรียนบ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เหตุเกิดเวลา 08.25 นาฬิกา 6 กันยายน โดยเบื้องต้นพบว่าแรงระเบิดทำให้เด็กหญิงมิตรา เว๊าะบ๊ะ อายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล เสียชีวิตพร้อมบิดา นายมะเย็ง เว๊าะบ๊ะ อายุ 36 ปี ขณะเดินทางมาโรงเรียน นอกจากนี้ยังมีนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 10 คน โดยใช้รถจักยานยนต์บอมม์ ในการก่อเหตุ พบเป็นรถจักรยานยนต์ประกอบระเบิดแสวงเครื่องเป็นถังแก๊สปิกนิกสีส้ม รถจักยานยนต์ที่ชิงมาจาก อ.ตากใบ โดยยิงเจ้าของรถเสียชีวิตในเดือน มิ.ย.59
ด้านพลโท วิวรรธน์ ปฐมภาคย์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แสดงความเสียใจอย่างยิ่ง ต่อญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์อันเกิดจากการกระทำอย่างโหดเหี้ยมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ยังคงมีพฤติกรรมแบบสุดโต่ง ก่อการร้ายและไร้มนุษยธรรม
หลังเกิดเหตุ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เข้าควบคุมพื้นที่ พร้อมเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ และ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุในครั้งนี้มาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างเร่งด่วน ต่อไป พร้อมทั้งให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของสังคมเป็นวงกว้าง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงเป็นความพยายามของกลุ่มโจรในการสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยไม่เคยคำนึงถึงเป้าหมาย ดังเช่นเหตุการณ์ในครั้งนี้เด็กอายุเพียง 5 ขวบ ต้องตกเป็นเหยื่อของคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มโดยไม่มีอุดมการณ์เพื่อประชาชนตามที่กล่าวอ้าง กองอำนวยการรักษาความ มั่งคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มองค์กรเครือข่ายที่เคลื่อนไหวเรียกร้องหาความเป็นธรรมในพื้นที่ ได้ออกมาร่วมกันประณามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ และร่วมต่อต้านการใช้ความรุนแรงอันเกิดจากการกระทำของผู้ก่อเหตุรุนแรงกันอย่างกว้างขวาง พร้อมกับขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแสคนร้าย ผ่านสายด่วน โทร.1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง