อธิบดีราชทัณฑ์ เผยผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดเพิ่มอีก 1,230 ราย เสียชีวิต 1 ราย
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 มิถุนายน 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิดในเรือนจำและทัณฑสถาน โดยข้อมูล ณ วันที่ 2 มิ.ย.2564 เวลา 16.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 1,230 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย โดยภาพรวมในเรือนจำและทัณฑสถาน ปัจจุบันมีเรือนจำ ทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้น 123 แห่ง
”และยังสามารถควบคุมจำนวนเรือนจำ ทัณฑสถาน ที่พบการแพร่ระบาดให้คงอยู่ที่ 13 แห่ง มีผู้ต้องขังติดเชื้อเริ่มได้รับการรักษาจนหายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นเกิดจากการสวอบตรวจหาเชื้อซ้ำในกลุ่มผู้ต้องขังจากสถานที่แพร่ระบาดเดิม เพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้รับการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดจำนวนผู้ป่วยหนักให้น้อยลง รวมถึงการตรวจพบเชื้อในกลุ่มผู้ต้องขังเข้าใหม่ที่มาจากภายนอก
นายอายุตม์กล่าวต่อว่า ส่วนการฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขัง วันนี้ได้เริ่มฉีดที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ หลังจากได้รับวัคซีนจากกรมควบคุมโรค รวมถึงการสนับสนุนบุคลากรจากทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ และ รพ.บางบ่อ ในฐานะ รพ.แม่ข่าย และอาสาสมัครพยาบาล 40 คน
ซึ่งได้ฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องขังทั้งหมด 6,515 คน และจะฉีดระหว่างวันที่ 3-6 มิ.ย. รวม 4 วัน เฉลี่ยวันละประมาณ 1,800 คน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ และลดการเจ็บป่วยรุนแรง หรือการเสียชีวิตของผู้ต้องขังลง ก่อนจะเริ่มกระจายการฉีดวัคซีนไปยังเรือนจำสีขาวที่เป็นเรือนจำปลอดเชื้อ จนกระทั่งครอบคลุมในทุกเรือนจำ ทัณฑสถาน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.นี้
สำหรับผู้ต้องขังที่เสียชีวิต 1 รายวันนี้ เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 84 ปี จากเรือนจำกลางคลองเปรม ตรวจพบเชื้อโควิดและเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ เป็นผู้ป่วยกลุ่มเปราะบาง คือมีโรคประจำตัวเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว และเป็นผู้ป่วยสูงอายุ แพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามอาการอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากเป็นผู้ป่วยสูงอายุและมีโรคประจำตัวอาการจึงทรุดลง และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2564
