รมว.ยุติธรรม สั่ง ป.ป.ส.จับตานักค้ายาเกาหลี เตรียมขยายผลตัดวงจรใช้ไทยส่งออกยาเสพติด

รมว.ยุติธรรม สั่ง ป.ป.ส.จับตานักค้ายาเสพติดสัญชาติเกาหลี หลังจับได้คาห้องพักยึดอุปกรณ์การเสพยังไม่พบของกลาง เตรียมขยายผลตัดวงจรใช้ไทยส่งออกยาเสพติด

จากกรณีเจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำสนามบิน อินชอน (เกาหลีใต้) ทำการตรวจยึดยาเสพติด (ยาไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม ประมาณ 4,040.49 กรัม มูลค่ากว่า 12.14 พันล้านวอน หรือประมาณ 341 ล้านบาทไทย พร้อมจับกุมผู้ต้องหาที่ส่งมาจากประเทศไทย ซึ่งมีการติดต่อซื้อขายยาเสพติดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย นั้น

วันที่ 11 มิถุนายน 2564 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เร่งประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุด สาธารณรัฐเกาหลี (SPO) ประจำสำนักงาน ป.ป.ส. เพื่อขยายผลไปยังผู้สั่งการและเครือข่ายที่ร่วมลักลอบคนยาเสพติดไปประเทศเกาหลีใต้เพื่อดำเนินคดี โดยวานนี้ (10 มิ.ย. 64) เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกับกองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และสำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลี (spo) เข้าจับกุมนายคิม ฮวาน ยุน Kim Chul yun สัญชาติเกาหลี ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ถนนนครอินทร์ ตำบลตลาดขวัญ จังหวัดนนทบุรี หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการขนยาเสพติดข้ามชาติ จากการตรวจค้นห้องพักดังกล่าวไม่พบยาเสพติด พบเพียงอุปกรณ์การเสพ ก่อนนำตัวนายคิม ฮวาน ยุน ส่งเจ้าหน้าที่โดยมีผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลีร่วมทำการสืบสวนด้วย

นายวิชัย เปิดเผยอีกว่า จากข้อมูลของสำนักงานอัยการสูงสุดเกาหลี (SPO) ที่ประสานกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. พบว่า นายคิม ฮวาน ยุน มีสถานะหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพราะเคยต้องคดียาเสพติดครอบครองยาไอซ์เพื่อจําหน่ายมาก่อน ซึ่งศาลสั่งพิพากษาจำคุก 2 ปี 11 เดือน และคดีถึงที่สุดแล้วจนเป็นบุคคลต้องห้าม ฯ ตามมาตรา 12 (6) (7) แห่ง พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2552 และจากการสืบสวนยังพบอีกว่า ล่าสุดนายคิม ฮวาน ยุน แอบลักลอบเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทยโดยผิดกฎหมายอีกครั้ง และยังมีพฤติการณ์การค้ายาเสพติดอยู่โดยใช้โทรศัพท์ติดต่อกับบุคคลอื่นตลอดเวลา

Advertisement

“รมว.ยุติธรรม สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคอยจับตากลุ่มค้ายาเสพติดข้ามชาติกลุ่มนี้ตั้งแต่ต้นทาง เพื่อสกัดกั้นไม่ให้ลักลอบขนยาเสพติดเข้าไทย เพราะนักค้ายาต่างชาติเหล่านี้มักใช้ไทยเป็นฐานส่งยาเสพติดไปยังประเทศอื่นด้วย โดยเจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อขยายผล หากเกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดรายอื่น หรือกลุ่มอื่น จะได้ดำเนินการยึดทรัพย์สินและตัดวงจรนักค้ายาให้หมดตามนโยบายของรัฐบาล” นายวิชัย กล่าว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image