ราชทัณฑ์เตรียมลดสถานะเรือนจำสีแดงที่ไม่พบเชื้อเพิ่ม ชี้แนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง

ราชทัณฑ์เตรียมลดสถานะเรือนจำสีแดงที่ไม่พบเชื้อเพิ่ม ชี้แนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง

ราชทัณฑ์เตรียมลดสถานะเรือนจำสีแดงที่ไม่พบเชื้อเพิ่ม ชี้แนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง กำชับเรือนจำ/ทัณฑสถานเร่งฉีดวัคซีนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2564 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 12 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 นาฬิกา) มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 409 ราย รักษาหายเพิ่ม 291 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 7,974 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตในวันนี้

ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถาน พบว่ามีเรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่เป็นเรือนจำสีขาวไม่พบการแพร่ระบาดคงที่ จำนวน 129 แห่ง และพบการแพร่ระบาด 12 แห่งคงเดิม ขณะที่สถานการณ์ของผู้ติดเชื้อรายใหม่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งจากการ SWAB ซ้ำในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่พบการแพร่ระบาดเดิมเพื่อค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้รับการรักษาโดยเร็ว และจากการตรวจพบเชื้อในผู้ต้องขังเข้าใหม่ ทั้งก่อนเข้าห้องกักโรค และระหว่างอยู่ในห้องกักโรค ตามมาตรการป้องกันเชื้อก่อนเข้าสู่เรือนจำ/ทัณฑสถานของกรมราชทัณฑ์

นายอายุตม์เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ นับได้ว่าสามารถควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว โดยพบว่ามีเรือนจำสีแดง คือพบการแพร่ระบาดในเรือนจำ/ทัณฑสถานเพียง 12 แห่ง ซึ่งในจำนวนนี้มีประมาณ 5 แห่ง ที่ไม่พบการติดเชื้อเพิ่มและอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักเกณฑ์เพื่อลดสถานะจากการเป็นเรือนจำสีแดงให้เป็นเรือนจำปกติที่สามารถรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ได้ คือเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำกลางเชียงใหม่ เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ทัณฑสถานหญิงกลาง และเรือนจำพิเศษธนบุรี

Advertisement

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องพิจารณาถึงปัจจัยด้านระยะเวลา และมาตรฐานด้านสาธารณสุขที่ต้องพิจารณาโดยละเอียด ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในประเด็นดังกล่าวประมาณสัปดาห์หน้า รวมถึงการพิจารณาคงสถานะเรือนจำสีขาวของเรือนจำ/ทัณฑสถาน 129 แห่งเดิม ที่ต้องมีเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อยืนยันการเป็นพื้นที่ปลอดเชื้ออยู่เสมอ

นายอายุตม์กล่าวต่อว่า กรมราชทัณฑ์ขอขอบคุณทุกความร่วมมือในการแก้ไขสถานการณ์จากทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ที่ได้ร่วมบริจาคสิ่งของ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ตลอดจนการสนับสนุนในด้านสถานที่ ด้านบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลืองานด้านต่างๆ

จนสามารถควบคุมสถานการณ์ให้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์เพื่อช่วยดูแลรักษาผู้ติดเชื้อ จากสำนักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และการอนุเคราะห์พื้นที่ จากมณฑลทหารบกที่ 11 เพื่อจัดทำสถานที่ควบคุมชั่วคราวในการรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ซึ่งจะช่วยในการบริหารจัดการ และแยกผู้ต้องขังไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อระหว่างกันได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

ด้านการบริหารจัดการวัคซีน นายอายุตม์กล่าวว่า จำนวนวัคซีนที่กรมราชทัณฑ์ได้รับการจัดสรรจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มาแล้วกว่า 40,000 โดส ได้ดำเนินการจัดส่งไปยังเรือนจำ/ทัณฑสถานเป้าหมายในระยะแรกไปแล้ว จำนวน 37 แห่ง ซึ่งเป็นการจัดสรรวัคซีนเพื่อฉีดให้แก่ผู้ต้องขังเป็นการเฉพาะ จึงขอให้เรือนจำ/ทัณฑสถานที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนดังกล่าวเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์และแผนการบริหารจัดการอย่างเคร่งครัด โดยในส่วนของการจัดสรรวัคซีนต่อเนื่องในเข็มที่ 2 กรมราชทัณฑ์จะประสานขอรับไปยังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง รวมถึงเรือนจำ/ทัณฑสถานนอกเขตพื้นที่สีแดง ที่จะได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างทั่วถึงต่อไปเช่นเดียวกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image