เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.ภาณุมาศ แสงส่ง สว.กก.1 บก.ป. ร.ต.อ.เอกพล ปัญจมานนท์ รอง สว.กก.1 บก.ป. ร.ต.ท.หญิง วชิรา ธาวนพงษ์ ร.ต.ต.อดิศร อายุโย รอง สว.กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายภูสวัสดิ์ สารพิษ อายุ 24 ปี ที่อยู่ 166/1 หมู่ 15 ต.ภูน้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 1405/2559 ลงวันที่ 17 กรกฏาคม 59 ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือร่วมกันรับของโจร จับกุมได้ที่ บริเวณด้านหน้าโลตัสเอ็กซ์เพลส ซอยราษฎร์อุทิศ27/1 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม.
ทั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจสามารถจับกุมแก๊งลักรถได้ผู้ต้องหาจำนวน5ราย ได้แก่นายเจษฎา คำแท้ อายุ 28 ปี, นายเดชา ศิริรัตน์ อายุ 19 ปี, นางสาวนงลักษณ์ ชื่นดอนกลอย อายุ 30 ปี, นายศิริวัฒน์ อินทร์เผือก อายุ 20 ปี และนายณัฐพล นันยะนารถ อายุ 19 ปี เมื่อวันที่ 15กรกฏาคมที่ผ่านมา โดยตำรวจได้สืบสวน กระทั่งพบว่ายังมีผู้ต้องอีกหนึ่งรายอยู่ระหว่างหลบหนี คือ นายภูสวัสดิ์ ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมพร้อมไปตรวจค้น ห้องพักเลขที่ 52/37 บ้านเอื้ออาทร ภายใน ซอยเสรีไทย43 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม และ ห้องพักพนักงาน บริษัท นภสร ซอยราษฎรอุทิศ 44/2 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม.ซึ่งเป็นห้องพักของนายภูสวัสดิ์ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
สอบสวน นายภูสวัสดิ์ ให้การปฏิเสธ ทุกข้อกล่าวหาว่าไม่เคยทำและสมคบทำผิดกับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ยอมรับว่าตนรู้กับผู้ต้องหา2คนในกลุ่มที่ถูกจับ แต่ทราบเพียงชื่อเล่นว่านายนุ กับนางสาวตา เมื่อครั้งทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร เมื่อปี 2556 ก่อนที่ปี 2557 จะแยกย้ายไปหางานใหม่กัน ซึ่งเมื่อเดือนมิถุนายน 2559ที่ผ่านมา ทั้งสองคนโทรศัพท์มาจ้างให้ตนช่วยไปเอารถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส สีดำ ทะเบียน สช 8629 กรุงเทพมหานคร ที่ พหลโยธิน ซอย2 จำนวน 5,000 บาท พร้อมอ้างว่าได้ซื้อรถยนต์มือ2 มาอีกต่อหนึ่ง แต่ไม่มีเวลาไปเอารถคันดังกล่าว โดยแบ่งจ่ายครั้งแรก 3,000บาทให้ เป็นค่าเดินทางและค่าดำเนินการที่ตนไปรับรถ และอีก 2,000บาทจะให้ภายหลังที่ได้รับรถแล้ว ในวันดังกล่าวจึงเดินทางไปที่นัดหมายเพื่อรับรถ ก่อนจะพบกับชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว และอ้างอีกว่ากุญแจหาย เพราะรถจอดไว้นานไม่ได้ใช้ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะให้หมายเลขโทรศัพท์ของบริษัทที่ลากรถและขอให้ตนช่วยโทรเรียกรถลากเพราะมีธุระต้องไปทำ เมื่อรถลากมาถึงจึงลากรถไปทำกุญแจใหม่ย่านบางซื่อ จากนั้นนายนุโทรศัพท์ให้ไปหาที่คลอง3 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ก่อนจะวานให้ไปเป็นเพื่อนขับรถแจ๊สคันดังกล่าวไปส่งลูกค้าที่คลอง14 อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ยอมรับว่าสงสัย เพราะครั้งแรกเข้าใจว่านายนุซื้อรถแจ๊สเอง แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ซึ่งเมื่อไปถึงบ้านลูกค้า ตนก็ได้รับเงินอีก 2,000บาทที่เหลือ และแยกย้ายกันกลับบ้าน
นายภูสวัสดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นตนก็มาทราบข่าวว่าเพื่อนทั้ง2คนถูกจับ แต่ไม่ทราบว่าตนเองถูกออกหมายจับเป็นผู้ต้องหามนคดีไปด้วย กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การ ก่อนนำตัวนายภูสวัสดิ์ ส่งพนักงานสอบสวนสน.บางซื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
