เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.อ.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนในคดีฆ่านายโกศล เรืองดุก อายุ 45 ปี เสี่ยเจ้าของธุรกิจรับซื้ออาหารทะเลใน อ.ไชยา ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตนำศพไปถ่วงทิ้งทะเล ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าและตรวจสอบสำนวนสอบสวน โดยมี พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบช.ภาค 8 พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.นภัณต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภาค 8 รวมทั้งชุดสืบสวน และพนักงานสอบสวนเข้าร่วมประชุม โดยความคืบหน้าการติดตามหาร่างนายโกศลยังไม่พบ
พล.ต.อ.จารุวัฒน์ กล่าวว่า สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 70 ปาก สำนวนสอบสวนมีความคืบหน้ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์เหลือเพียงรอพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนการค้นหาศพนายโกศล ล่าสุดสามารถหาพิกัดพื้นที่ใกล้เคียงมากขึ้น และได้ประสานกองเรือภาค 2 จะนำเครื่องมือพิเศษเข้าทำการค้นหาตามพิกัดเร็วๆนี้ คาดหวังจะพบศพนายโกศล
“การสอบสวนพยานยืนยันตรงกันว่ามี 1 ในผู้ต้องหาที่ออกหมายจับใช้อาวุธปืนยิงนายโกศล จนเสียชีวิตแล้วนำร่างไปยังจุดต่างๆ และในทุกจุดได้ทิ้งพยานหลักฐานดีเอ็นเอ นายโกศล ในทุกขั้นตอนการย้ายศพไปอำพราง ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ตรวจยึดพยานหลักฐานได้ทั้งหมดจึงไม่กังวลแม้จะยังไม่พบศพ แต่ยังมีความหวังการค้นหาจะพบหลักฐานชิ้นส่วนนายโกศล เนื่องจากประจักษ์ พยานยืนยันสถานที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น”พล.ต.อ.จารุวัฒน์กล่าว
พล.ต.อ.จารุวัฒน์ กล่าวและว่า ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนอยากพูดคุยกับนางจินดาหรา วศินทรัพย์ ภรรยานายโกศล หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมก็ต้องนำเข้าสำนวนแต่ก็ไม่ยอมมา ส่วนที่อ้างว่า กลัวจะไม่ปลอดภัยขอให้สบายใจได้ เพราะมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบฝังตัวอยู่ในพื้นที่และกลุ่มผู้ต้องหาได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ และยืนยันว่า จะไม่มีอิทธิพลอื่นได้มาอยู่เหนือกฏหมายได้
ข่าวแจ้งว่า พล.ต.อ.จารุวัฒน์ ได้บินไปยังพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อตรวจสำนวนความคืบหน้าคดีอาวุธสงคราม ซึ่ง 1 ในผู้ต้องหาคดีฆ่านายโกศล มีส่วนพัวพันคดีในพื้นที่ จ.แพร่ และ จ.เชียงราย ด้วยโดยพบหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ต้องหารายนี้
