ดีเอสไอลุยเครือข่ายฟอกเงินค้ายา ยึด-อายัดทรัพย์มูลค่ากว่า 50 ล. พบเงินหมุนเวียนปีละ 500 ล.

ดีเอสไอลุยเครือข่ายฟอกเงินค้ายา ยึด-อายัดทรัพย์มูลค่ากว่า 50 ล. พบเงินหมุนเวียนปีละ 500 ล.

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ สั่งการให้ นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และรองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการพาลีปราบยา 2 ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษเพื่อการยึดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด ได้สนธิกำลัง 3 หน่วย ได้แก่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ

โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ตำรวจภูธรจังหวัดตาก และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 6 เข้าค้นบ้านเลขที่ 111/11 หมู่ 12 ตำบลแม่ท้อ อำเภอเมือง จังหวัดตาก ตามอนุมัติศาลจังหวัดตาก ที่ 36/2564 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ในฐานความผิดร่วมกันฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ

Advertisement

พ.ต.ท.กรวัชร์เปิดเผยอีกว่า ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า กลุ่มบุคคลมีธุรกรรมต้องสงสัยและมีความเชื่อมโยงเกี่ยวพันกับเส้นทางการเงินกับกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด ซึ่งการตรวจสอบย้อนหลัง 9 ปี นับแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน พบว่า มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารของบุคคลในครอบครัวและบุคคลอื่นๆ เฉลี่ยปีละประมาณ 500 ล้านบาท

โดยบางช่วงมีการหมุนเวียนสูงถึง 1,200 ล้านบาท รวมทั้งไม่ปรากฏข้อมูลในการเสียภาษีแต่อย่างใด ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ และพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างการดำเนินการในคดีพิเศษที่ 33/2564

Advertisement


พ.ต.ท.กรวัชร์ยังกล่าวว่า จากผลการตรวจค้นสถานที่พบโฉนดกรรมสิทธิ์ที่ดินหลายแปลงทั้งบุคคลในครอบครัวและบุคคลอื่น สมุดทะเบียนรถยนต์ สมุดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้อายัดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบไว้หลายรายการ

ได้แก่ 1.บ้านและที่ดินในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จังหวัดตาก และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวม 5 แปลง 2.ยานพาหนะ ประเภทรถยนต์และรถบรรทุก จำนวน 11 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 3 คัน 3.บัญชีธนาคารบุคคลเป้าหมายและครอบครัว รวมประมาณ 30 บัญชี 4.ทองรูปพรรณและนาฬิกาอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกดำเนินการในครั้งนี้ประมาณ 50 ล้านบาท


ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะได้ขยายผลควบคู่การใช้มาตรการทางกฎหมายในการดำเนินคดีกับผู้ที่มีพฤติกรรมการฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกราย และให้โอกาสในการพิสูจน์ทั้งความบริสุทธิ์และความผิดตามขั้นตอนทางกฎหมาย

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image