เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 กันยายน ที่ปั้มเติมแก๊สแอลพีจีไทยแก๊ส บริษัท ฟ้านำพา จำกัด ถ.เชื่อมสัมพันธ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ ผกก.สน.ลำผักชี พ.ต.ท.ศักยะ แสงวรรณ รองผกก.สส.สน.ลำผักชี และชุดสืบสวน สน.ลำผักชี ร่วมกันทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายชาคริต หรือปอนด์ บัวลอย อายุ 23 ปี นายสุรศักดิ์ หรือฟร้อง จูหลาย อายุ 18 ปี นายสุเมธ หรือเมธ จูหลาย อายุ 15 ปี (เยาวชน) ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ฯ โดยมีอาวุธโดยมียานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม เวลา03.30 น. มีกลุ่มคนร้าย 3 คน ใช้อาวุธมีดปลายแหลม (สปาต้า) และขวาน เข้ามาปล้นทรัพย์จาก น.ส.นภาพร ไชยคำ กับ น.ส.เบญจวรรณ ม่วงเพชร พนักงานปั้มแก๊สดังกล่าว โดยใช้มีดและขวานข่มขู่ได้ทรัพย์สินไปจำนวน 3 รายการ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ซัมซุง รุ่น เจ2 จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ออปโป จำนวน 1 เครื่อง เงินสด 4,900 บาท แล้วใช้รถจยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น คลิก125ไอ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายบะเบียน หลบหนีมุ่งหน้าแยกมหานคร
พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวต่อว่า ฝ่ายสืบสวนทราบว่า มีการเปิดใช้งานโทรศัพท์เครื่องซัมซุง จากการตรวจสอบได้มาจากนายชาคริต จึงติดต่อขอซื้อโทรศัพท์ออปโป้ โดยนัดหมายกันที่ ปั้มเอสโซ่ ถนนกิ่งแก้ว-บางพลี ในวันที่ 9 ก.ย. เวลา 20.00 น. เมื่อถึงเวลานัดหมายพบนายชาคริต เจ้าหน้าได้แสดงตัวพร้อมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย จับกุมได้ที่หมู่บ้านวัฒนา 2 แขวง ลำผักชี เขต หนองจอก กรุงเทพมหานคร เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง พร้อมพาไปยึดมีดและขวานรวมทั้งจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุและขโมยมาจากท้องที่อื่น โดยผู้ต้องหาได้นำเครื่องยนต์และอะไหล่บางส่วนไปขายหลังจากก่อเหตุ ที่หลังบ้านของนายชาคริต จากนั้นจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ลำผักชี ดำเนินคดีต่อไป
