เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 13 กันยายน ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางสงวน (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี มารดาของ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี เข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมและขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน กรณี น.ส.บี ถูกนายโก้ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ใช้กำลังบังคับข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดที่ห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา โดยนำภาพถ่ายของนายโก้ มาประกอบสำนวน
นางสงวนเปิดเผยว่า ลูกสาวทำงานอยู่ที่โรงแรมระดับ 5 ดาว แห่งหนึ่ง ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ก่อนเกิดเหตุทางโรงแรมที่ทำงานของลูกสาวจัดงานเลี้ยงขึ้น โดยนายโก้ มาร่วมงานดังกล่าว แต่ภายหลังเลิกงานแล้ว นายโก้ย้อนกลับมาที่บ้านพักของลูกสาว เป็นที่พักของทางโรงแรมจัดไว้สำหรับพนักงาน บุกเข้าในห้องก่อนใช้กำลังทำร้ายร่างกาย พร้อมกับลงมือข่มขืน โดยข่มขู่ว่าหากไม่ยอมจะทำร้ายร่างกายจนถึงชีวิต หลังเกิดเหตุลูกสาวโทรศัพท์มาปรึกษา จึงบอกให้รีบไปแจ้งความดำเนินคดี ทางตำรวจกรุงไคโร รับคดีและพาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.ในกรุงไคโร แล้ว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนดำเนินคดี แต่ทราบว่านายโก้เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ตั้งข้อสังเกตว่าการที่นายโก้สามารถเดินทางออกมาจากประเทศอียิปต์ได้นั้น เป็นเพราะญาติรู้จักกับเจ้าหน้าที่ของที่นั่น จึงต้องเข้าร้องทุกข์กับทาง บก.ป.ในวันนี้
ด้าน พ.ต.อ.ชาคริตกล่าวว่า เบื้องต้นมอบหมายให้ ร.ต.ท.หญิง พรพิมล ดอกไม้ รองสารวัตร (สอบสวน) กก.1 บก.ป.รับเรื่องและสอบปากคำผู้ร้องไว้ ก่อนจะลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยนางสงวนต้องการนำไปใช้ประกอบเอกสารการขอทำวีซ่า เดินทางไปดูแลลูกสาวที่ประเทศอียิปต์ ส่วนคดีที่เกิดขึ้นเป็นเหตุระหว่างคนไทยกับคนไทยด้วยกัน ทาง บก.ป.สามารถพิจารณาดำเนินคดีให้ได้ แต่ยังต้องขอข้อมูลข้อเท็จจริงทางคดีจากตำรวจอียิปต์เสียก่อน โดยขั้นตอนต่างๆ ต้องเป็นไปตามกระบวนทางกฎหมายระหว่างทั้งสองประเทศ
