วันที่ 23 ก.ค.64 ที่สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร รอง ผบชภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พรเทพ เพ็ชรรักษ์ ผกก.สภ.บางบัวทอง พร้อมด้วย ดร.ชัยรัตน์ จำนงค์การ ประธาน กต.ตร.จว.นนทบุรี ร่วมกันแถลงข่าวสรุปผลคดีที่ 2 กลุ่มวัยรุ่นยกพวกนัดปะทะปาระบิดใส่กันกลางดึกเมื่อคืนวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณถนนกาญจนาภิเษก หน้าห้างเดอะสแควร์ ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งอยู่ในการประกาศบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉิน ห้ามออกจากบ้านในช่วงเคอร์ฟิว
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะกลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายทั้งการฝ่าฝืนเคอร์ฟิว ขี่รถ จยย.ไล่ทำร้ายกันด้วยการปาระเบิดทำเองที่เตรียมมากลางถนน สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนที่เห็นเหตุการณ์จนถ่ายคลิปและถูกแชร์ไปในโลกโซเซียลเป็นจำนวนมาก ตนจึงได้สั่งกำชับให้เร่งติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งต่อมาทางชุดสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี ชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง และชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ สามารถติดตามจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทั้งสองกลุ่มได้ คือกลุ่มนครทอง ช.รุ่งเรือง 6 จำนวน 11 คน ซึ่งในกลุ่มนี้มีนายยะ เยาวชนอายุ 17 ปี เป็นหัวหน้ากลุ่มอยู่ในพื้นที่บางบัวทอง ส่วนอีกกลุ่มคู่กรณีคือ กลุ่มหลังบาง บางศรีเมือง มีสมาชิกที่เข้าร่วมก่อเหตุในคืนดังกล่าวจำนวน 9 คน มีนายออม อายุ 20 ปี เป็นหัวหน้ากลุ่มอยู่ตำบลบางแม่นาง
ผบช.ภ.1 กล่าวอีกว่า จากการนำกำลังเข้าจู่โจมบุกค้นตามที่อยู่ของกลุ่มวัยรุ่นทั้งสองกลุ่มพบว่า มีวัตถุระเบิดปิงปองหรือระเบิดที่ทำเองด้วยการไปซื้อปะทัดลูกกลมเล็กๆ ที่ใช้จุดไล่นกมาแกะแล้วรวบรวมดินปืนหลายอัน มาทำผสมเป็นระบิดใหม่ที่ใหญ่กว่าเสียงดังกว่า แล้วเพิ่มตะปูหรือหินลงไปด้วยเพื่อให้เกิดอันตรายเพิ่มยิ่งขึ้นเวลาที่ปาไปแล้วระเบิดตกกระทบพื้น นอกจากนี้ยังตรวจยึดมีดดาบขนาดต่าง ๆ ปืนปากกา หมวกกันน็อก รถ จยย.อีกนับสิบคัน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่กลุ่มผู้ต้องหาทั้งสองกลุ่มใช้ในคืนที่ก่อเหตุปะทะกัน
ผบช.ภ.1 กล่าวเสริมอีกว่า ชนวนเหตุที่ทำให้ทั้งสองกลุ่มก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายก็เนื่องจากมีการไปดักอุ้มดักทำร้ายกันมาก่อนหน้านี้ จนต่อมาเกิดการท้าทายกันขึ้นผ่านโซเซียลแล้วนัดหมายยกพวกมาปะทะกันพร้อมกับระเบิดที่เตรียมมา หลังถูกจับกุมก็ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตั้งข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันโดยมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ร่วมกันทำให้ระเบิด ร่วมกันพกพาอาวุธมืด อาวุธปืน ติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ และร่วมกันชุมนุมหรือจัดกิจกรรม ในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคอันเป็นความผิดตามข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป
พร้อมกับให้เรียกตัวผู้ปกครองของกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุทั้งหมดมาทำทัณฑ์บนคาดโทษไว้เพื่อไม่ให้บุตรหลานกลับมาก่อเหตุเดือดร้อนแก่ชาวบ้านในลักษณะเช่นนี้อีก รวมทั้งให้ขยายผลและกวดขันร้านค้าที่จำหน่ายปะทัดในลักษณะนี้อย่างเข้มงวด ถ้าพบว่าไม่มีใบอนุญาตขายให้ตรวจยึดในทันทีในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อป้องกันไม่ให้ซื้อปะทัดเหล่านี้มาก่อเหตุทำเป็นอาวุธไล่ทำร้ายกันหรือนำไปปาป่วนเมืองอีก รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตามองบรรดากลุ่มวัยรุ่นต่างๆ ในพื้นที่ที่มักชอบก่อเหตุยกพวกปะทะกัน ซึ่งมีอยู่อีกประมาณ 10 กลุ่ม ให้หยุดพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนดังกล่าวอย่างใกล้ชิด