ป.จู่โจม76จุดปฏิบัติการBlack Weapons online ทลายเครือข่ายค้าปืนออนไลน์ ยึด141กระบอก

เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1บก.ป. พร้อมกำลัง ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตามแผนปฏิบัติการ Black Weapons online ทลายเครือข่ายนักค้าอาวุธปืนออนไลน์ ทั้งสิ้น 8 จุด โดยจุดที่น่าสนใจ มีพ.ต.ต.ศราวุธ จันต๊ะวงศ์ สว.กก.1 บก.ป นำกำลัง ตรวจค้นบ้านเลขที่ 499/123 ซอยโรงสี ถนนนางลิ้นจี่ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักชั้นเดียว เนื้อที่ประมาณ 30 ตารางเมตร เจ้าหน้าที่พบนายฐิรเมศวร์ พลอยจินดา อายุ 29 ปี ตรวจค้นพบวิทยุสื่อสารสีดำและ น้ำยาขัดรางปืน

ทลาย1

สอบสวนนายฐิรเมศวร์ ให้การว่า ซื้อปืนลูกซองสั้นแบบไทยประดิษฐ์และลูกกระสุนขนาด .22 ผ่านทางอินเตอร์เน็ตเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาในราคา 7,000 บาท ต่อมาเมื่อทราบข่าวว่าคนขายอาวุธปืนให้ตนถูกวิสามัญ ด้วยความกลัว จึงรีบขายปืนให้กับเพื่อนชื่อ นายหลง ที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ในราคา 7,000 บาท ไปเมื่อกลางปี 2559 ส่วนอาวุธปืนที่ตนซื้อมานั้น เพียงแค่นึกสนุกและซื้อมายิงฉลองงานวัดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ทลาย3

Advertisement

จุดที่สอง พ.ต.ต.สมเดช สาระบรรณ์ สว.กก.1บก.ป. นำกำลังตรวจค้นห้องพักเลขที่ 102 บ้านพรหมมาอพาร์ตเมนต์ ซอยพหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม ของ จ่าอากาศโทตวงสิทธิ์ พูลถาวร อายุ 26 ปี หลังพบหลักฐานว่าเคยสั่งซื้ออาวุธปืน จากนายไพศาล คำไทย อายุ 32 ปี พ่อค้าอาวุธปืนทางอินเตอร์เน็ต ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมไปเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากการตรวจค้นในห้องพักและในรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า โคโรล่า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 5 กฌ 3880 กรุงเทพมหานคร และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีดำทอง ทะเบียน 4 กธ 8868 กรุงเทพมหานคร ไม่พบอาวุธปืน หรือสิ่งผิดกฎหมายอื่น จากการสอบสวนเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธว่าไม่เคยสั่งซื้ออาวุธปืนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงตรวจปัสสาวะ ตรวจเก็บดีเอ็นเอเอาไว้

จุดที่สาม พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม รอง ผกก.1 บก.ป. นำกำลัง เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 405 ชั้น 4 c.c.k. แมนชั่น เลขที่ 83/13 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ของนายวสันต์ หล้าสุด อายุ 27 ปี อดีตทหารเกณฑ์ สังกัดกองทัพเรือ ในตู้เสื้อผ้าพบสิ่งเทียมอาวุธปืนยาว(บีบีกัน)2กระบอก เสื้อเกราะกันกระสุน2ตัว อุปกรณ์ติดตั้งปืน อาทิ ลำกล้อง คันท้ายปืนยาว แมกกาซีน และวิทยุสื่อสาร2เครื่อง ใบอนุญาตพกพาและครอบครองอาวุธปืน ระบุชื่อ ร.ท.วสันต์ หล้าสุด พร้อมเอกสารจำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้ตรวจสอบ

สอบสวนนายวสันต์ ให้การว่า อุปกรณ์ทั้งหมดสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต เนื่องจากชื่นชอบอาวุธปืน เป็นการส่วนตัว และก่อนหน้านี้เคยสั่งซื้ออาวุธปืนสั้นของจริงผ่านทางทางอินเตอร์เน็ตกับผู้ค้ารายหนึ่ง แต่ไม่ได้ของ โดยผู้ค้ากลับส่งก้อนหินมาให้ในกล่องพัสดุแทน

Advertisement

ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ พล.ต.ต.อภิชาติ ศิริสิทธิ์ พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รองผบช.ก.รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย และพ.ต.อ.มนตรี แป้นเจริญ รองผบก.ป. ร่วมกันแถลงผลการระดมกวาดล้างอาวุธปืนและวัตถุระเบิด ตามแผนปฏิบัติการ Black Weapons online “ทลายเครือข่ายนักค้าอาวุธปืนออนไลน์”

โดยพล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่า รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งให้ตำรวจบก.ป.และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.) ร่วมกันสืบสวนหาข้อมูลขบวนการซื้อขายอาวุธปืนผ่านทางอินเตอร์เน็ต หลังปรากฏข้อมูลว่ากลุ่มนักเรียนสั่งซื้ออาวุธปืนผ่านทางโซเซียลมีเดีย และนำมาก่อเหตุ จากการสืบสวนเชิงลึกทำให้ชุดสืบสวนพบพฤติกรรมว่า กลุ่มนักเรียนนักศึกษา จะซื้อขายอาวุธปืนผ่านทางอินเตอร์เน็ต ก่อนจะใช้ไปรษณีย์เป็นช่องทางขนส่งสินค้า จากนั้นจะโอนเงินเพื่อชำระสินค้าผ่านบัญชีธนาคาร ยังพบอีกว่าเครือข่ายผู้ค้าและลูกค้ามีมากกว่า164ราย จึงได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด76จุดทั่วประเทศ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางตำรวจบก.ป. คอมมานโด บก.ปอท. และตำรวจในสังกัดบช.ก. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว

พล.ต.ต.สมหมายกล่าวว่า จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนทั้งหมด กว่า 141 กระบอก เป็นอาวุธปืนมีทะเบียน 32 กระบอก ไม่มีทะเบียน 109 กระบอก ในจำนวนนี้มีอาวุธปืนสงครามร้ายแรง อาทิ ปืนอาก้า4 กระบอก ปืนเอชเค 33 จำนวน 1 กระบอก ปืนเอ็ม 16 จำนวน 5 กระบอก อุปกรณ์ส่วนควบ กระสุนปืนกว่า2,000นัด ทั้งนี้ยังจับกุมผู้ต้องหาได้มากถึง20ราย รวมทั้ขยายผลเครือข่ายได้จำนวนมาก และอยู่ระหว่างการขยายผลต่อไป

พล.ต.ต.สมหมาย กล่าวว่า นอกจากนี้ทางพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. สั่งการให้ ตำรวจคอมมานโดบก.ป.นำรถวิทยุสายตรวจ ลงพื้นที่ยืนปรากฏกายบริเวณสถานศึกษาเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม ทั้งในพื้นที่บช.น.และปริมณฑล กว่า 14 สถาบัน รวมทั้งตรวจค้นกลุ่มนักเรียนหัวโจกมาปรับทัศนคติ และเป็นแนวร่วมในการทำงานกับเจ้าหน้าที่ ตลอดจนบันทึกประวัตินักเรียนกลุ่มเสี่ยง เพื่อเป็นแนวทางสืบสวนป้องกันปัญหานักเรียนตีกันระหว่างสถาบัน

ด้านพล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า นอกจากนี้ทางบช.ก.ได้สั่งการให้ตำรวจในสังกัด สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งรูปแบบบุคคลและขบวนการ ซึ่งในห้วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา- เดือนกันยายน สามารถจับกุมผู้ต้องหา 115 คน 135 หมายจับ และเมื่อวันที่ 16 กันยายนทางกก.2บก.ป. สามารถทลายขบวนการแหล่งผลิตธนบัตรดอลลาร์ปลอม และสกุลเงินปลอมต่างๆ ได้ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือนายราเมศ พระสุนิน อายุ 49 ปี และน.ส.วลัยพร นุชสวัสดิ์ อายุ 32 ปี จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 18/305 ถ.วัชรพล แขวงคลองถนน เขตสายไหม พร้อมอาวุธปืน เครื่องกระสุน เครื่องจักรขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องมือและวัตถุสำหรับผลิตธนบัตรปลอม รวมของกลางทั้งสิ้นกว่า 71 รายการ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image