เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 20 สิงหาคม 2564 นางสาวชฎาพร มังคลา อายุ 23 ปี พร้อมบิดา ได้เดินทางมายัง สภ.เมืองสิงห์บุรี เพื่อขอให้ดำเนินคดี กับนายพนม ( สงวนนามสกุล) หนุ่มใหญ่วัย 48 ปี ในข้อหายักยอกทรัพย์
นางสาวชฎาพร เล่าให้ฟังว่า เธอเป็นสาวโรงงานชำแหละชิ้นส่วนไก่แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดลพบุรี ต่อมาทราบว่าเป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ต้องเข้าทำการรักษาตัวเป็นเวลา 2 เดือน จนปัจจุบันหายเป็นปกติแล้ว เช้าวันเกิดเหตุ ได้ไปนั่งเล่นโทรศัพท์ ที่ศาลเจ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีถุงพลาสติกสีเขียวที่ภายในมีกระเป๋าสตางค์และเอกสารส่วนตัวมากมาย วางไว้ข้างๆ ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นเดินกลับบ้านโดยลืมถุงพลาสติกไว้ และเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมถุงไว้ที่ศาลเจ้า เธอจึงรีบเดินกลับไป แต่ก็ไม่พบถุงดังกล่าวแล้ว ซึ่งระหว่างทางนั้นเธอได้พบกับนายพนม ผู้ต้องสงสัย จึงได้สอบถามแต่นายพนมให้การปฏิเสธ ไม่รู้และไม่เห็นถุงดังกล่าว
ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่นำตัวนายพนม มาทำการสอบสวนก็ให้การยอมรับว่า เป็นผู้นำถุงพลาสติกไปจริง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายพนมไปยังบ้านพัก ที่หมู่ที่ 1 ตำบลบางมัญ อำเภอเมืองสิงห์บุรี พบถุงพลาสติกสีเขียวของผู้เสียหาย แต่เงินสดจำนวน 800 บาท บัตรประจำตัวประชาชน และใบรับรองแพทย์ได้หายไป โดยนายพนมอ้างว่าถุงที่เก็บได้มีเพียงกระเป๋าสตางค์ กุญแจรถและซองใส่บัตรประชาชนเท่านั้น ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ นายพนมยืนยันว่าไม่มี
ด้านนางสาวชฎาพร กล่าวว่า ทรัพย์สินที่หายไปก็มีเงินสด 800 บาท บัตรประจำตัวประชาชน และใบรับรองแพทย์ ซึ่งมีความสำคัญมาก เพราะในวันพรุ่งนี้ ( 21 สิงหาคม 2564) เธอต้องกลับไปทำงานตามปกติ ซึ่งต้องใช้ใบรับรองแพทย์ไปแสดงว่าเป็นผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายป่วย อาการปกติดีแล้ว จึงจะได้ทำงาน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำคู่กรณีมาไกล่เกลี่ยทำความตกลง โดยฝ่ายนายพนมยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
