วันที่ 20 กันยายน นายธีรพันธ์ นันทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินการกรณีการบุกรุกชายหาดในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ความยาว 400 เมตร บริเวณริมถนนนเรศดำริห์ ตั้งแต่ศาลเจ้าแม่ทับทิมถึงสะพานปลาหัวหิน หลังจากศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุด โดยให้ลงโทษปรับผู้บุกรุก และให้รื้อถอนอาคารออกจากพื้นที่ โดยมีนายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหัวหิน เจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายธนะรัชต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. เจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 หลังจากศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2557 ล่าสุดเทศบาลเมืองหัวหินได้แจ้งหนังสือถึงผู้บุกรุกจำนวน 26 ราย จำนวน 22 คดี ให้ รื้อถอนอาคารรุกล้ำชายหาดหัวหินภายใน 30 วัน รวมทั้งใช้มาตรการการเชิญกลุ่มผู้บุกรุกมาเจรจาให้รื้อถอน และเร่งรัดใช้กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามนโยบายจัดระเบียบชายหาดของรัฐบาล และ คสช.
นายธีรพันธ์กล่าวว่า จะมีการใช้มาตรการตามมติที่ประชุม โดยผู้บุกรุกที่ไม่มีคำสั่งศาล จะใช้คำสั่งคณะปฏิวัติที่ 44/2502 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้อำนาจทางการปกครองปิดประกาศสั่งรื้อถอนอาคารได้ตามขั้นตอนที่กำหนดภายใน 15 วัน และใช้อำนาจตามคำสั่งที่ 4/2558 ของคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากหลายฝ่ายกังวลว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานรัฐอาจมีปัญหาความขัดแย้งกับกลุ่มมวลชนในระหว่างการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ดังนั้นนั้นการทำงานของทุกหน่วยเจ้าหน้าที่ต้องมีความปลอดภัย
“ตอนนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3 และ เทศบาลเมืองหัวหินดำเนินการรังวัดแนวเขตพื้นที่สาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ร่วมกันและพื้นที่ที่น้ำทะเลท่วมถึงตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย 2456 ตามอำนาจของกรมเจ้าท่า เพื่อให้มีการกำหนดแนวทางการทำหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานมีความชัดเจนมากที่สุดและใช้ระยะเวลาไม่นานในการรื้อถอนโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติกับผู้บุกรุกรายใด หลังจากเทศบาลรายงานการสำรวจมีการปลูกสร้างอาคารจำนวน 40 หลังในพื้นที่บุกรุก แต่ข้อมูลของกรมเจ้าท่าเมื่อปี 2546 ยืนยันว่ามีผู้บุกรุก 52 ราย” นายธีรพันธ์กล่าว และว่า การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างชายหาดหัวหินครั้งนี้มีหลายฝ่ายจับตามอง เป็นการทำงานเพื่อช่วยชาติ จะเป็นผลงานชิ้นโบแดงในการจัดระเบียบชายหาดที่มีชื่อเสียงในระดับโลก แต่การทำงานอาจมีอุปสรรคบ้าง ดังนั้น การกำหนดแผนงาน และขั้นตอนการทำงานจึงไม่ควรมีข้อบกพร่องและต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้าน พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร (รอง ผบก.ภ.) ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ผบก.ภ.ประจวบคีรีขันธ์ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หลังจากหมายจับผู้ต้องหาคดีบุกรุกหาดหัวหิน 8 ราย ของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สูญหายตั้งแต่ปี 2557 และล่าสุดหลังจากส่งสำเนาหมายจับให้ สภ.หัวหินดำเนินการได้รับรายงานว่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย สำหรับผู้ต้องหาที่เหลือมี 2 รายเสียชีวิต และอีก 5 ราย หลบหนีออกนอกพื้นที่ เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าปรับรายวันรวมหลายล้านบาทตามคำสั่งศาล