ผบก.ภ.นราธิวาส ย้ำแม้ปลดล็อกพืชใบกระท่อมแล้ว แต่ยังห้ามแปรรูปเพื่อจำหน่าย

พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส สรุปประเด็นพืชกระท่อม เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับประชาชนในพื้นที่ โดยระบุว่า ตามที่ประเทศไทยได้นำพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 ไปแล้ว ทำให้ประชาชนสามารถ ปลูก ครอบครอง บริโภคซื้อขาย “ใบกระท่อมสด” ได้อย่างเสรี รวมทั้งสามารถจำหน่ายได้ในทุกช่องทางโดยไม่มีความผิด

ส่วนการต้มอนุญาตเฉพาะเพื่อบริโภคในครัวเรือน ห้ามต้มบรรจุขวดเพื่อจำหน่าย เนื่องจากติดข้อห้ามตาม พ.ร.บ.อาหารและยา พ.ศ.2522 เรื่องข้อกำหนดอาหาร ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายกระท่อมทั้งต้นและที่เป็นสารสกัด และเป็นหนึ่งในบัญชีแนบท้ายรายการที่ 52 ซึ่งถูกจำกัดห้ามผลิตหรือจำหน่าย เพราะด้วยเจตนาของการปลดล็อกพืชกระท่อม คือ การผลักดันให้เป็นพืชเศรษฐกิจของประเทศ ที่มีคุณสมบัติของพืชกระท่อมตามภูมิปัญหาท้องถิ่นช่วยเรื่องสุขภาพ อาทิ การเคี้ยวใบกระท่อมสด เพื่อลดอาการเหนื่อยล้า แก้ปวด ทำให้นอนหลับง่าย คลายกล้ามเนื้อ

ทั้งนี้ขอย้ำว่า เพื่อควบคุมและกำกับเพื่อป้องกันการนำพืชกระท่อมไปใช้ในทางที่ผิด จึงมีการห้ามจำหน่ายให้กับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ รวมทั้งสตรีมีครรภ์ ตลอดจนห้ามจำหน่ายในสถานศึกษาและวัด ส่วนกรณีนำมาต้มต้องเป็นการต้มเพื่อบริโภคในครัวเรือน ห้ามจำหน่าย และต้องไม่มีส่วนผสมของยาเสพติด ยาแก้ไอ หรือ 4×100 หากพบการฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย

นอกจากนี้ในกรณีนำเข้าพืชกระท่อมจากประเทศเพื่อนบ้าน แม้กฎหมายระบุให้สามารถครอบครองได้ แต่หากเป็นการนำเข้าหรือส่งออกต่างประเทศ จะต้องดูที่เจตนา เช่น ตรวจพบว่านำติดตัวมา 1-2 ใบ ถือว่านำมาเพื่อบริโภค เพราะใบสดจะมีอายุเพียง 5 วัน แต่หากนำเข้าหรือส่งออกในปริมาณมาก เช่น 1 กิโลกรัมขึ้นไป ถือเป็นการส่อเจตนาที่จะนำเข้าหรือส่งออกเพื่อจำหน่าย หรือ ทำเป็นอุตสาหกรรม ต้องขออนุญาตกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดก่อนดำเนินการ

Advertisement

พล.ต.ตนรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้ง 13 อำเภอ ศึกษารายละเอียดข้อกฎหมายเกี่ยวกับพืชกระท่อมเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน และหากพบว่ามีการนำไปใช้แปรรูปผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะในกรณีที่มีส่วนผสมต้องห้ามประเภท ยาเสพติด ยาแก้ไอ หรือ4×100 สามารถจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที เพราะพฤติการณ์ในลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นการมอมเมาในกลุ่มเด็กและเยาวชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image