สอบ2หมอ ดูแล”ธวัชชัย”ห้องซีซียู ผกก.พิสูจน์วงจรปิดก่อนสรุป”ประมาท-ฆาตกรรม”

ความคืบหน้าการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าพนักงานที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาออกเอกสารสิทธิที่ดินรุกป่าที่ จ.ภูเก็ต ถูกควบคุมตัวที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใช้ถุงเท้าผูกคอในห้องขังดีเอสไอ โดยผลการตรวจพิสูจน์ของสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่ามีอาการตับแตก แพทย์ยืนยันว่าไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากการปั๊มหัวใจ ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตยังติดใจถึงสาเหตุการตาย จนยกเลิกพิธีฌาปนกิจศพ รอพิสูจน์ความจริง

หมอ2

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 กันยายน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายแพทย์สมโภชน์ จิตรเกษมสุข รังสีแพทย์ และนายศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย แพทย์อายุรกรรมหัวใจ ทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยขณะอยู่ห้อง CCU โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เข้าให้ปากคำกับ พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.วินิจ ศรีสูงเนิน พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิเศรษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.นพดล ดรศรีจันทร์ สว. (สอบสวน) และ ร.ต.ท.กฤติเดช ชอบค้าขาย รอง สว.(สอบสวน) โดยมีอัยการร่วมสอบปากคำ

หมอ3

Advertisement

พล.ต.ต.เจริญเปิดเผยว่า อย่าเพิ่งตีความคำว่า นายธวัชชัย อนุกูล “ถูกทำให้เสียชีวิต” เป็น “ฆาตกรรม” ขอเวลาพนักงานสอบสวนรวบรวบพยานหลักฐานและสรุปสำนวนคดีให้ชัดเจน สำหรับประเด็นผลการชันสูตรศพสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พบซี่โครงหัก ขัดแย้งกับที่พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์เฟซบุ๊กว่า ระหว่างช่วยเหลือชีวิต มีหลักฐานยืนยันจากกล้องวงจรปิดว่า ไม่ได้ทำให้ซี่โครงหักนั้น ขอเวลาตรวจสอบอย่าเพิ่งเชื่อมโยงกัน โดยพนักงานสอบสวนจะมีหน้าที่เพียงสอบสวนเท่านั้น ส่วนผลจะมีการยืนยันออกมาเป็นอย่างไรขอให้อยู่ในสำนวนคดี ทั้งนี้ ทางตำรวจไม่สามารถเปิดเผยได้ ให้เป็นหน้าที่ของศาลในการไต่สวนดำเนินการในเรื่องนี้ต่อไป สำหรับการทำให้เสียชีวิตหรือฆาตกรรมนั้น ทางพนักงานสอบสวนไม่สามารถลงลึกถึงรายละเอียดในชั้นนี้ได้ มีหน้าที่เพียงเป็นพนักงานสอบสวนที่จะสอบสวนชุดชันสูตรพลิกศพเท่านั้น จะต้องระบุให้ชัดเจนว่าเสียชีวิตอย่างไร เพราะเหตุใด ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดที่สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทุกคนนั้นไม่ถือว่าขัดแย้งกัน เพราะเป็นการบอกเล่าจากตัวบุคคลอาจมีความแตกต่างกันบ้าง แต่เป็นไปทางทิศทางเดียวกัน

ด้าน พ.ต.อ.มานะได้แจกเอกสาร หนังสือการชันสูตรพลิกศพ มาตรา148 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่ระบุว่าเมื่อปรากฏแน่ชัดหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่าบุคคลใดตายโดยผิดธรรมชาติ หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงาน ให้มีการชันสูตรพลิกศพ เว้นแต่ตายโดยการประหารชีวิตตามกฎหมาย การตายโดยผิดธรรมชาตินั้นคือ ฆ่าตัวตาย ถูกผู้อื่นทำให้ตาย ถูกสัตว์ทำร้ายตาย ตายโดยอุบัติเหตุ ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ

โดย พ.ต.อ.มานะกล่าวว่า คณะกรรมการสอบสวนชุดนี้มีพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง พนักงานอัยการ ร่วมสอบสวนเพื่อประกอบสำนวน คดีชันสูตรพลิกศพเท่านั้น เป็นการสอบแพทย์ผู้เกี่ยวข้องที่สอบสวนแพทย์ 2 ท่าน มี 1 ท่าน สอบสวนใหม่ ท่านที่ 2 สอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุการตายตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา การชันสูตรพลิกศพ มาตรา 148 (2) หลักฐานตามนิติวิทยาศาสตร์แน่นหนักว่ามีร่องรอย 3-4 จุด ที่ไม่ได้กระทำด้วยตนเอง จากหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์นี้ เพียงพอว่าผู้เสียชีวิตถูกผู้อื่นทำให้ตาย อาจจะเกิดจากความประมาท หรือฆาตกรรม แต่ยังไม่ได้สรุปสำนวนการชันสูตรพลิกศพ เพราะต้องรอหลักฐานอื่นๆอย่างกล้องวงจรปิดด้วย เมื่อสรุปสำนวนคดีการชันสูตรพลิกศพ ทาง สน.ทุ่งสองห้อง จะเสนอพนักงานอัยการ ส่งศาลต่อไป คดีนี้ไม่ใช่สำนวนคดีอาญา ว่าต้องแจ้งข้อหากับใคร

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลจากการชันสูตรศพครั้งนี้จะมีวิวัฒนาการ ใช้เป็นหลักฐานให้ทางญาตินำไปแจ้งความดำเนินคดีอาญาอื่นๆ ได้หรือไม่ พ.ต.อ.มานะกล่าวว่า คดีการชันสูตรพลิกศพยังไม่ได้สรุปสำนวน อาจจะเกิดจากความประมาท หรือฆาตกรรม ต้องรอผลจากหลักฐานอื่นก่อน

ต่อมาเวลา 12.30 น. ภายหลังการสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง พ.ต.อ.มานะ กล่าวว่า สำหรับนายแพทย์สมโภชน์ จิตรเกษมสุข รังสีแพทย์นั้น เป็นการสอบปากคำเพิ่มเติมจากครั้งก่อนเรื่องของการอ่านฟิล์มเนื่องจากครั้งแรกไม่พบว่ามีซี่โครงหัก ขณะเอกซเรย์ผู้เสียชีวิตยังมีชีวิตอยู่ รวมถึงการสอบถามถึงขั้นตอนการเอกซเรย์ เครื่องมือที่ใช้ และกรณีที่มีเลือดออกในช่องท้อง 1,000 CC และตับแตก จะส่งผลอย่างไรในการเอกซเรย์ ทั้งนี้ไม่สามารถเปิดรายละเอียดได้ สำหรับนายแพทย์ศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย แพทย์อายุรกรรมหัวใจทำหน้าที่ดูแลผู้ป่วยขณะอยู่ห้อง CCU นั้น เป็นการสอบครั้งแรก สอบในส่วนของขั้นตอนการช่วยชีวิต ส่วนที่ว่าจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่การปั๊มหัวใจหลายครั้งจะส่งผลให้กระดูกซี่โครงหักนั้น ทางความคิดเห็นของแพทย์ระบุว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจทำให้ซี่โครงหัก

พ.ต.อ.มานะ กล่าวต่อว่า จากการสอบปากพล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บัญชาการสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ มีการนำภาพขั้นตอนการผ่าชันสูตรมาชี้แจง และได้มีการคำนวณระยะเวลาการตับแตกว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาใด แต่มีความชัดเจนว่าตับแตกที่บริเวณปีกขวามีการฉีกขาด แต่ไม่สามารถระบุได้ว่ามีความรุนแรงระดับใด และมีความสอดคล้องกับเลือดที่ออกบริเวณช่องท้อง 1,000 CC ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนรู้ช่วงเวลาที่ตับแตกแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวนคดี รวมถึงของแข็งไม่มีคมกระแทกที่ระบุลงในสาเหตุการเสียชีวิตนั้นตอนนี้ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของแข็งชนิดใด แต่จากการสอบปากคำทีมแพทย์พบว่ามีร่องรอย 3-4 รอยทั้งภายนอกและภายในที่ยืนยันว่าไม่เป็นการฆ่าตัวตายเอง แต่เป็นการถูกทำให้ตาย

พ.ต.อ.มานะ กล่าวอีกว่า สำหรับลำดับการชี้แจงช่วงเวลาตั้งแต่การควบคุมตัวนายธวัชชัย ที่จ.นนทบุรีในเวลา 11.00 น. และนำมาควบคุมก่อนสอบปากคำที่ชั้น 4 และนำตัวไปสอบปากคำเวลา 14.00 น. จนถึงนำตัวไปคุมที่ห้อมควบคุมผู้ต้องขัง ชั้น 6 ในเวลา 17.00 น. ทางพนักงานสอบสวนตั้งข้อสังเกตว่าอาจถูกผู้อื่นทำให้ตาย ในระหว่างที่ถูกคุมขัง ขณะนี้หลักฐานที่ทางพนักงานสอบสวนยังคงต้องรอจากกองพิสูจน์หลักฐาน คือผลการตรวจสอบความความเป็นต้นฉบับของกล้องวงจรปิด จะนัดสอบปากคำพล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน ในเรื่องจำลองเหตุการณ์ที่ดีเอสไอ รวมถึงมีการขอแผนผังการติดตั้งกล้องวงจรปิดชุดเก่าที่ใช้การไม่ได้จากดีเอสไอ ทั้งหมดอยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะนำศพของนายธวัชชัยไปตรวจ CTscan โครงสร้างกระดูกนั้น หากได้ผลที่มีความแตกต่างออกไป จะดำเนินการขอผลการตรวจมาตรวจสอบเพิ่มเติม แต่ส่วนตัวคิดว่าจากหลักฐานรายละเอียดที่มีอยู่เพียงพอแล้วที่จะไม่ต้องผ่าชันสูตรรอบ 2 อย่างไรก็ตามในวันที่23กันยายน พนักงานสอบสวนจะเชิญเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ 3 รายมาให้ปากคำเพิ่มเติม มีผู้ที่ถือกุญแจห้องควบคุม ที่ยังไม่เคยมาให้ปากคำ 1 ราย และพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบคดีออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ2ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image