ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.10 น.วันที่ 8 กมภาพันธ์ พันตำรวจโทไมตรี กองสุข พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบศพเด็กทารกถูกทิ้งอยู่ภายในวัดสามัคคี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตานครราชสีมา และแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านต่างพากันมุ่งดูศพเด็กทารกแรกเกิดที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกสีดำแล้วห่อด้วยถุงพลาสติกสีขาว และคลุมด้วยผ้าสีแดง อยู่บริเวณด้านข้างศาลาบำเพ็ญกุศลศพของวัดสามัคคี โดยจากการตรวจสอบพบว่าเป็นศพเด็กทารกเพศชาย อายุประมาณ 8-9 เดือน สภาพศพสมบูรณ์ ผิวขาว เส้นผมดกดำ และที่บริเวณหน้าท้องของเด็กยังพบว่ามีสายสะดือและรกติดอยู่ โดยคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง
จากการสอบถามนางอรุณ โมรานอก อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 435 หมู่ 11 ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชีมา (ผู้พบศพเด็กทารกคนแรก) เปิดเผยว่า ตนเองและสามีจะชอบมาเก็บเศษอาหารที่เหลือจากงานศพภายในวัดอ เพื่อนำไปเลี้ยงสุนัข โดยช่วงเย็นเมื่อวานที่ผ่านมา (7 ก.พ.) ก็ได้มาเก็บถุงดำในบริเวณดังกล่าว แล้วนำกลับบ้านก่อน เช้าวันนี้ ได้นำถุงดำที่เก็บเข้าไปออกมาแกะในจุดที่เก็บในครั้งแรกเพื่อให้อาหารสุนัขภายในวัดตามปกติ จนกระทั้งพบว่าภายในถุงดำนั้นมีการห่อถุงซ้อนกันจำนวนหลายชั้น และเมื่อแกะแทบช็อกเมื่อพบว่าภายในถุงนั้นมีศพเด็กทารกอยู่ข้างในจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ด้านตำรวจโทไมตรีเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคาดว่าคนที่นำเด็กทารกมาทิ้งภายในวัดน่าจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ ที่ยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร ดังนั้น เมื่อคลอดออกมาจึงนำใส่ถุงดำแล้วนำมาทิ้งไว้ภายในวัด โดยในเบื้องต้นจากการตรวจสอบศพเด็กทารกของแพทย์เวรโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พบว่าเป็นเด็กทารกเพศชายอายุประมาณ 8-9 เดือน เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามแม่ใจร้ายที่นำศพเด็กทารกมาทิ้งภายในวัดเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
