สืบลุมพินีรวบแก๊งเงินดำ อ้างเป็นอดีตทหารอเมริกา ตุ๋นเหยื่อสูญเงินเกือบสิบล้าน

สืบลุมพินีรวบแก๊งเงินดำ อ้างเป็นอดีตทหารอเมริกา ตุ๋นเหยื่อสูญเงินเกือบสิบล้าน

เมื่อวันที่ 27 กันยายน พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 สั่งการให้ พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ปรัชญา บุญยืน รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ท.ภราดร สุวรรณรัตน์ สว.สส.สน.ลุมพินี พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ สุดหอม สว.สส.สน.ลุมพินี ร.ต.อ.อิทธิกร เกิดผละ รอง สว.สส.สน.ลุมพินี ร.ต.อ.วัฒนา เล็กโล่ง รอง สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ร่วมกันจับกุม นายปีเตอร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี สัญชาติไลบีเรีย ผู้ต้องหาหลอกเหยื่อทำธุรกิจเงินดำ

พร้อมของกลาง สำลีลักษณะเดียวกับที่ใช้บรรจุในกระเป๋าเพื่อหลอกผู้เสียหาย, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 16 เครื่อง, เงินสดประมาณ 150,000 บาท เงินสกุลดอลลาร์ และเงินสกุลยูโรอีกจำนวนมาก โดยสามารถจับกุมได้บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 25 กันยายน ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจชาวไทย ว่าถูกชายชาวต่างชาติผิวสีมาชวนทำธุรกิจ พร้อมอ้างเป็นอดีตทหารกองทัพสหรัฐอเมริกา มีเงินธนบัตรดอลลาร์สหรัฐที่ได้จากการรบที่ประเทศอัฟกานิสถาน แต่ถูกเคลือบสีทึบไว้เพื่อความปลอดภัยในการขนส่ง โดยจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการสั่งซื้อน้ำยามาล้างสีที่เคลือบออกเพื่อนำธนบัตรดอลลาร์มาใช้ จึงชวนผู้เสียหายมาลงทุนซื้อน้ำยามาลอกสีดังกล่าว

Advertisement

โดยคนร้ายรายนี้มักจะแต่งกายดูดี ใส่ของใช้แบรนด์เนม โดยติดต่อนัดเจรจาธุรกิจตามสถานที่หรูถึง 5 ครั้ง ก่อนมีการมอบกระเป๋าเดินทางซึ่งภายในอ้างว่าบรรจุเงินเคลือบสีไว้แก่ผู้เสียหายเพื่อเป็นการให้ผู้เสียหายไว้วางใจ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่ออย่างสนิทใจ จึงได้นำเงินสดมอบให้คนร้ายไปเป็นเงิน จำนวน 7,850,000 บาท เพื่อไปเอาน้ำยามาลอกสีธนบัตร แต่ต่อมาไม่ได้รับความคืบหน้า ผู้เสียหายจึงได้เปิดกระเป๋าออกตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงเศษกระดาษและสำลีอยู่ภายใน จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สน.ลุมพินี

ต่อมาตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี จึงได้ออกสืบสวนติดตามจนทราบว่าคนร้ายในคดีนี้จะมาปรากฏตัวที่บริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าว เนื่องจากมีการนัดหมายให้ผู้เสียหายมาจ่ายเงินเพิ่มเติม เป็นจำนวนกว่า 8,000,000 บาท ทางตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับตลอดจนทำการวางแผน เฝ้าสังเกตการณ์ จนผู้ต้องหารายนี้ปรากฏตัว จึงแสดงตัวทำการจับกุมไว้ได้ และทำการขยายผลไปตรวจค้นห้องพักพบของกลางทั้งหมด จึงทำการตรวจยึดไว้และควบคุมตัวสอบสวนที่ สน.ลุมพินี

Advertisement

สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่ามีผู้จ้างให้นำกระเป๋าดังกล่าวมามอบให้เหยื่อเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต่อคำให้การ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบว่าผู้ต้องหารายนี้เดินทางเข้า-ออกประเทศไทยหลายครั้ง โดยใช้หนังสือเดินทางนักท่องเที่ยว เมื่อตรวจสอบประวัติยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน

หลังจากนี้ทางตำรวจต้องประสานข้อมูลกับทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อทำการตรวจสอบประวัติว่าคนร้ายรายนี้มีการเปลี่ยนชื่อ หรือเคยมีประวัติอีกหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าจะทำเป็นขบวนการ จึงต้องทำการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหาที่เหลืออีก เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้มีหน้าที่เพียงมาพบเพื่อหว่านล้อมเหยื่อให้หลงเชื่อเท่านั้น เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฉ้อโกง” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image