‘พิยดา’ ยังปฏิเสธ ซัดทอดครอบครัวแฟนเป็นคนโกง ยันทรัพย์สินได้จากขายเสื้อผ้าออนไลน์

‘พิยดา’ ยังปฏิเสธ ซัดทอดครอบครัวแฟนเป็นคนโกง ยันทรัพย์สินได้จากขายเสื้อผ้าออนไลน์

เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 29 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมตัว น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงเด็กนักเรียนมัธยม โดยตลอดคืนที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน สภ.นาหวาย ได้นำตัว น.ส.พิยดา ออกมาสอบสวนหลายครั้ง โดยนอกจากแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ทำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนฯ แล้ว พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม คือ “ฟอกเงิน” ด้วย แต่ น.ส.พิยดา ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยทางทนายความได้ยื่นขอประกันตัวที่พนักงานสอบสวน แต่พนักงานสอบสวนคัดค้าน และคุมตัวไว้ที่ห้องขังของ สภ.นาหวาย ตลอดทั้งคืน

จนกระทั่งเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท. นำหมายค้นเข้าไปเชิญตัวพ่อกับแม่เลี้ยงของ น.ส.พิยดา จากรีสอท์หรูแห่งหนึ่งใกล้ สภ.นาหวาย มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมและยึดรถยนต์เก๋งบีเอ็มดับบลิวเอ็ก 1 หมายเลขทะเบียน 2ขฎ 9393 กรุงเทพมหานคร เงินสดกว่า 700,000 บาท โทรศัพท์มือถือ เอกสารภายในห้องพักทั้งหมดมาตรวจสอบเส้นทางการเงิน ก่อนที่เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นาหวาย ได้นำตัว น.ส.พิยดา ออกจากห้องขังมาสอบปากคำเพิ่มเติม และนำตัวผ่านระบบวิดีโอคอนฟาเรนซ์กับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทางศาลได้ออกหมายขัง โดยมีนายวิเชียร อินเรน ทนายความอยู่ร่วมกับผู้ต้องตลอดการสอบปากคำ

Advertisement

ด้านนายกลยุทธ ทองคำพันธุ์ อายุ 45 ปี พ่อของ น.ส.พิยดา และแม่เลี้ยง ได้มาออกมาร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน โดยวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับลูกสาวตนบ้าง เพราะจะประกันตัวก็ไม่ให้ประกัน เช้านี้ยังมายึดทรัพย์สินอีก ตนต้องเช่ารถมาขับ เงินสดที่เตรียมมาประกันตัว เอกสาร และโทรศัพท์มือถือ ตอนนี้ถูกยึดไปทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถติดต่อใครได้เลย ตอนนี้หมดหนทางที่จะยื่นประกันตัว ซึ่งทางครอบครัวมั่นใจว่า น.ส.พิยดา ไม่ได้เป็นคนโกงผู้เสียหาย และบอกอีกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามีโอกาสได้พูดคุยกับ น.ส.พิยดา บริเวณหน้าห้องขังของ สภ.นาหวาย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าเป็นคนโกงผู้เสียหายจริงหรือไม่ ซึ่ง น.ส.พิยดา ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำและซัดทอดว่าคนโกงผู้เสียหายจริงๆ แล้วเป็นฝ่ายครอบครัวแฟนของ น.ส.พิยดา ส่วนทรัพย์สินของ น.ส.พิยดา ได้มาจากการขายเสื้อผ้าออนไลน์ ตอนนี้อยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงินของครอบครัวแฟน น.ส.พิยดา อย่าโยนความผิดให้น้องฝ่ายเดี่ยว ให้ความเป็นธรรมกับน้องด้วย

ต่อมาเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว น.ส.พิยดา ขึ้นรถควบคุมนักโทษ นำตัวไปส่งทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ อ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อฝากขังไว้ในเรือนจำ และคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างเดินขึ้นรถห้องขังน.ส.พิยดา มีสีหน้าเศร้า น้ำตาไหลตลอดเวลา เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มีอะไรพูดซัดทอดว่าใครบงการเรื่องนี้หรือไม่ น.ส.พิยดา กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตอนนี้รู้สึกเสียใจที่ทางบ้านโน้นซัดหนูเต็มที่ โดยว่าหนูใช้เขาเป็นเครื่องมือ แต่ไม่เป็นไรคะ หนูยืนยันว่าไม่ได้ทำคะ ส่วนเรื่องน้องก้องที่เสียชีวิต ตอนนี้มีชื่อของเธออยู่ในคดี ก็ต้องขอโทษครอบครัวน้องที่เสียชีวิตด้วย ยืนยันจะต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด

Advertisement

ด้านนายวิเชียร อินเรน ทนายความ เปิดเผยว่า วันนี้จบขั้นตอนของทางตำรวจ มีการนำน้องส่งเรือนจำหญิง ตนก็จะเตรียมเอกสารทั้งหมด หลักฐานไปประกันตัวน้องที่ศาลต่อไป ตอนนี้น้องก็ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะไปรวบรวมหลักฐานเอกสารต่างๆ มายืนยันความบริสุทธิ์ของน้องเขา ส่วนกรณีที่ตำรวจ สอท. มายึดทรัพย์บิดาและครอบครัวของน้องเขา ตนก็จะยื่นร้องขอคืนทรัพย์สิน เพื่อนำทรัพย์สินตรงนั้นมาใช้ประกันตัวน้องเขา ต่อไป

พ.ต.อ.สกุลรัชช์ คงทอง ผกก.สภ.นาหวาย เปิดเผยว่า ตอนนี้การดำเนินการสืบสวนขยายผล ทาง สอท. เป็นแม่งานในการขยายผลขบวนการฉ้อโกงนี้ ส่วนการสอบสวนปากคำทางพนักงานสอบสวนเราก็จะดำเนินการในส่วนของการจับกุม นส.พิยดา ซึ่งเชื่อว่าภายในอาทิตย์หน้าก็จะสรุปสำนวนเสนอให้อัยการดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายได้

ล่าสุดบ่ายวันนี้ น.ส.เอ (นามสมมุติ) สาววัย 26 ปี พนักงานราชการแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมายัง สภ.ช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี หลังเข้าแจ้งความกับตำรวจไว้เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมาหลังสั่งซื้อโทรศัพท์มือถือทางไอจี phonebymint แต่เมื่อโอนเงินไปแล้วกลับไม่ได้รับสินค้า เมื่อทวงถามก็ถูกบล็อกบัญชีการติดต่อ สูญเงินไปกว่า 1.4 หมื่นบาท

น.ส.เอ กล่าวว่า ทราบข่าวว่า น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี แม่ค้าออนไลน์ถูกตำรวจจับกุม เพราะหลอกขายมือถือให้น้องก้อง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม. 2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จนน้องเกิดความเครียดเส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต ซึ่งนางสาวเอ เชื่อว่า น.ส.พิยดา น่าจะเป็นเจ้าของบัญชีไอจีเดียวกันกับที่ฉ้อโกงเธอ

น.ส.เอ เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา เข้าไปติดต่อขอซื้อโทรศัพท์ไอโฟน 11 โปร ความจุ 256 GB ในราคาเครื่องละ 15,000 บาท จากบัญชีไอจี ชื่อ phonebymint ซึ่งโพสต์ขายโทรศัพท์มือสองทางออนไลน์ เพราะเห็นว่ามีผู้ติดตามบัญชีนี้กว่า 5 หมื่นคน หลังส่งข้อความไปสอบถามแม่ค้าได้แอดไลน์มาพูดคุยรายละเอียดและหลังตกลงซื้อขาย แม่ค้าแจ้งว่าหากโอนเงินมาทันทีจะมีส่วนลดให้ 1,000 บาท เหลือราคาเครื่องละ 14,000 บาท พร้อมส่งสินค้าให้ภายใน 1 วัน เธอเห็นว่าราคาค่อนข้างถูก จึงขอเลขที่บัญชีเพื่อโอนเงินไป โดยครั้งแรกแม่ค้าแจ้งเลขที่บัญชีของธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์มา แต่เมื่อโอนเงินไปปรากฎว่าบัญชีนี้ถูกปิด จึงทักแม่ค้าไปอีกครั้งว่าไม่สามารถโอนเงินไปได้ ต่อมาแม่ค้าได้ส่งเลขที่บัญชีมาใหม่และเธอได้โอนเงินไปจำนวน 14,000 บาท พร้อมส่งสลิปไปยืนยัน ต่อมาวันที่ 19 สิงหาคมได้ทักไลน์ไปเพื่อสอบถามเลขที่พัสดุ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ และถูกบล็อกบัญชีการติดต่อในที่สุดจึงเชื่อว่าถูกหลอก”

น.ส.เอ บอกว่า เมื่อทราบข้อมูลว่า น.ส.พิยดา ที่ถูกจับกุมเป็นเจ้าของบัญชีไอจี phonebymint เธอจึงเดินทางมาติดตามคดี เพราะอยากได้เงินคืน รวมทั้งอยากจะดำเนินคดีกับแม่ค้าออนไลน์รายนี้ที่ฉ้อโกงเธอด้วย

ด้านพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก กล่าวว่า หลัง น.ส.เอ เข้าแจ้งความ ตำรวจได้ทำหนังสือแจ้งไปยังธนาคาร เพื่อขออายัดบัญชีที่ น.ส.เอโอนเงินไป พร้อมขอตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีดังกล่าว เพื่อประกอบในสำนวนคดีและติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายแล้วตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม เบื้องต้นจากการตรวจสอบเจ้าของบัญชีทราบว่า ถูกจ้างให้ไปเปิดบัญชีที่ร้านสะดวกซื้อในราคา 8,000 บาท โดยผู้ว่าจ้างได้แจ้งให้เปิดบัญชีที่พ่วงกับหมายเลขโทรศัพท์พร้อมเพย์ซึ่งผู้ว่าจ้างใช้อยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image