ภ.1 รวบยกแก๊งปล้นจยย. เลือก’รุ่นเวฟ’ตลาดฮิต หาเงินซื้อยาบ้า

เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง ผกก.สภ.โพธิ์ทอง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.โพธิ์ทอง ร่วมกันแถลงจับกุม นายวรายุทธ หรือวัท ทองเรือง อายุ 23 ปี นายนิรุตน์หรือเบียร์ หอมจันทร์ อายุ 26 ปี และนายวิษณุหรือนัท ทองเรือง อายุ 26 ปี ชาวอ่างทองทั้ง 3 คน พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว-ม่วง ทะเบียน ขนษ 6109 สระบุรี จำนวน 1 คัน จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีขาว ทะเบียน หษม 792 สิงห์บุรี จำนวน 1 คัน จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอสีขาว-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน หมวกกันน็อกเต็มใบจำนวน 3 ใบ ไม้กระบองจำนวน 1 อัน อาวุธปืนลูกซองสั้น ไทยประดิษฐ์ กระสุนเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก และเสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ

พล.ต.ต.รณศิลป์กล่าวว่า สืบเนื่องจากในพื้นที่ จ.อ่างทองและ จ.สิงห์บุรี เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้าย 3 คนร่วมกันปล้นจักรยานยนต์ 2 คัน และทำร้ายเจ้าของทรัพย์สินโดยการใช้ไม้กระบองตีจนได้รับบาดเจ็บ ในพื้นที่ สภ.เมืองอ่างทอง เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา จากนั้นในพื้นที่ สภ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี มีคนร้าย 3 คน ร่วมกันปล้นนายสุชิน มีศิลป์ อายุ 50 ปี โดยใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงใส่นายสุชินเข้าบริเวณขาขวา ได้รับบาดเจ็บก่อนที่กลุ่มคนร้ายปล้นจักรยานยนต์ของนายสุชินไป เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ต่อมาในพื้นที่ สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เกิดเหตุนายธีรวัจน์ เหมือนทิพย์ อายุ 30 ปี ทะเลาะวิวาทกับคนร้าย 4  คน ก่อนถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองสั้นเข้าบริเวณหน้าท้องจำนวน 1 นัด ก่อนกลุ่มคนร้ายจะหลบหนีไป หน้าโลตัสเอ็กซ์เพรส หมู่ 5 ต.อ่างแก้ว เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา

พล.ต.ต.รณศิลป์กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบว่าทั้ง 3 เหตุเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากมีพฤติการณ์ในการก่อเหตุคล้ายกัน ต่อมาสืบทราบตัวคนร้ายเจ้าหน้าที่จึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านพักนายวรายุทธแต่ไหวตัวหลบหนีไปได้ พบแต่นายนิรุตน์กับนายวิศณุ ซึ่งได้ให้การรับสารภาพและยืนยันว่านายวรายุทธเป็นคนยิงปืนทั้ง 2 เหตุ จากการตรวจค้นภายในบ้านพักพบรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ และจักรยานยนต์ที่ร่วมกันปล้นจากผู้เสียหาย ก่อนขยายผลจนสามารถจับกุมนายไพศาล เอี่ยมสุด อายุ 24 ปี ผู้รับซื้อจักรยานยนต์ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมนายวรายุทธได้ในที่สุด พร้อมอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพ โดยนายนิรุตน์กล่าวว่า ตนกับพวกเคยก่อเหตุมา 3 ครั้งโดยใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน มีตนเป็นคนขับปาดหน้า นายวรายุทธเป็นคนซ้อนท้ายและใช้อาวุธปืน ส่วนนายวิษณุเป็นคนขี่จักรยานยนต์อีกคัน ทำหน้าที่ขับตามและชนซ้ำเพื่อให้จักรยานยนต์ล้ม ส่วนใหญ่จะเลือกรุ่นเวฟ เนื่องจากขายง่ายและเป็นที่ต้องการของนายทุน เมื่อได้จักรยานยนต์มาก็จะนำไปขายให้กับนายไพศาล โดยครั้งแรกได้เงิน 1,500 บาท และครั้งที่ 2 ได้เงินมา 2,500 บาท ก่อนนำเงินมาแบ่งกันกินเที่ยวและซื้อยาบ้าเสพ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ปล้นทรัพย์ผู้อื่นโดยมีและใช้อาวุธโดยใช้ยานพาหนะ ปล้นทรัพย์ผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัสโดยมีและใช้อาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ ส่วนนายวรายุทธโดนแจ้งข้อหาเพิ่มประกอบด้วย พยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ADVERTISMENT