พบศพลุงวัย 64 ปีดับปริศนาใต้ต้นไม้ที่มีเชือกผูกอยู่ ตามลำตัวมีร่องรอยถูกแทง
วันนี้ 1 ตุลาคม 2564 เวลา 14.30 น รตท.สฤษฏ์ชัย ตะริศูนย์ ร้อยเวรสภ. เมืองปราจีนบุรีได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตบริเวณหน้ากระต๊อบ ไม่มีบ้านเลขที่หมู่ที่ 15 ตำบลบ้านพระอำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรีจึงได้เดินทางไปพร้อมสว่างบําเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรีและแพทย์เวรเข้าตรวจสอบเหตุดังกล่าว
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณกระต๊อบไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 15 ตำบลบ้านพระอำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรีพบศพ ชายเสียชีวิตในลักษณะนั่งก้มหัว และมีเลือดไหลออกจากปากเป็นจำนวนมาก อยู่ใต้ต้นไม้ที่มีเชือกห้อยลงมา โดยทราบชื่อต่อมาชื่อนายเสนาะ จากจะโป๊ะ อายุ 64 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ที่ 15 ตำบลบ้านพระอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ได้จากการชันสูตรของแพทย์เบื้องต้น ได้พบว่ามีบาดแผลคล้ายรอยมีดประมาณ 3-4 เซนติเมตร ตรงบริเวณ ลิ้นปี่ 1 แผล ที่ท้อง 1 แผล ที่คอ 1 แผล และเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง
จากการสอบถาม นายโอภาส ชัยชนะ อายุ ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรกและเป็นเพื่อนบ้านที่คอยให้ความช่วยเหลือเรื่องข้าวเรื่องน้ำอยู่ประจำนั้น ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้เสียชีวิตได้อาศัยอยู่ในกระต๊อบนี้มานาน โดยผู้เสียชีวิต จะอยู่เพียงคนเดียวไม่มีลูกไม่มีเมียปกติแล้วผู้เสียชีวิตจะมีอาชีพ รับจ้างทั่วไป แต่เนื่องจากอายุ และเศรษฐกิจ covid-19 จึงไม่มีใครจ้างประกอบกับ อาทิตย์ที่แล้ว น้ำไฟ ที่กระต๊อบโดนตัด จึงได้เกิดความเครียด เคยมาบ่นกับ ชาวบ้าน ซึ่งตนได้ห้ามปรามและบอกผู้เสียชีวิตว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอก จนอยู่มาเมื่อวานผู้เสียชีวิตก็บ่นอยากตาย ตนคาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเกิดความเครียด ประกอบกับไม่มีเงินใช้จ่ายเลยคิดใช้มีด ทำร้ายตัวเอง ที่บริเวณลิ้นปี่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ เลยนำเชือกขึ้นไปแขวนกับต้นไม้แต่ยังไม่ทันถูกคาดว่าน่าจะเสียเลือดมากและนั่งเสียชีวิตในลักษณะดังกล่าว
จากการตรวจสอบโดยรอบ ของหน่วยพิสูจน์หลักฐานสภเมืองปราจีนบุรี พบกองเลือด บริเวณประตูหน้าบ้าน และยังพบมีดปลายแหลมขนาดประมาณ 13 นิ้ว เสียบอยู่บริเวณฝาบ้านคาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่ผู้ตายได้ใช้แทงตัวเองและไม่เสียชีวิตทันที จึงได้เตรียมจะใช้เชือกไว้ผูกคอตัวเอง แต่คาดว่าน่าจะเสียเลือดมาก จึงทำให้เสียชีวิตในท่านั่งดังกล่าว
โดยนาย ณัฐวัตร นุตศิริ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นอาสาสมัครมูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถานได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าเมื่อวาน วันที่ 30 กันยายน 2564 ประมาณ 11.00 นได้รับแจ้งว่ามีงูเหลือมเข้าไปติดที่ใช้ดักปลาภายในบ้านดังกล่าวและยังได้พบผู้ชายมาช่วยตนนำงูเหลือมตัวดังกล่าวออกจากตาข่ายด้วยจากการสังเกตพบว่าผู้ตาย ไม่ได้มีทีท่าซึมเศร้ายังช่วยตนนำงูเหลือมออกจากตาข่ายได้สำเร็จ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปผ่าพิสูจน์การเสียชีวิตอีกครั้งที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรและจะสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการตายที่แน่ชัด และติดต่อญาติ ให้มารับศพ ไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป
