วันที่ 3 ตุลาคม 2559 ที่ห้องพิจารณาคดี 15 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ นางวันทนา ถวัลย์ลาภา ผู้พิพากษาได้นั่งบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาชั้นศาลฎีกา ในคดีดำหมายเลข อ.5868/2543 ซึ่งพนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยรวม 7 คน ประกอบด้วย จำเลยที่ 1 นายพูลสวัสดิ์ วรวัลย์ หรือเสี่ยตุ้ม อดีตรองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จำเลยที่ 2 นายพิทักษ์ ตันติศักดิ์ หรือเฮียหมี อดีต ส.ท.กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม จำเลยที่ 3 นายจรัส ณรงค์จันทร์ชัย จำเลยที่ 4 นายสุรชัย จันทร์เป็ง จำเลยที่ 5 นายบุญยัง ปัญจศีล จำเลยที่ 6 นายสิงห์ทร เกสร และจำเลยที่ 7 นายประสิทธิ์ เจียมจิต ในความผิดต่อเจ้าพนักงาน ม.136 และ ม.146 ร่วมกันปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านให้นายเฉิน หมั่น ซุง หรือ “อาหลิว” ผู้ต้องหายักยอกเงินแบงก์ชาติจีน 5,000 ล้านบาท ที่หลบหนีมาเชียงใหม่ องค์กรตำรวจสากลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประสานตำรวจเชียงใหม่เข้าจับกุมตัวเมื่อ 16 ปีก่อน โดยนายเฉิน หมั่น ซุง ถูกตั้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง ปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนทะเบียนราษฎร และจ้างวานเจ้าหน้าที่ของรัฐให้ได้มาซึ่งเอกสารของทางราชการ มาตั้งแต่ปี 2543
รายงานระบุว่า หลังจากผู้พิพากษาใช้เวลา 1 ชั่วโมง อ่านคำพิพากษา ตัดสินจำคุก นายพูลสวัสดิ์ วรวัลย์ เป็นเวลา 4 ปี จำคุกนายประสิทธิ์ เจียมจิต 5 ปี และนายพิทักษ์ ตันติศักดิ์ 3 ปี ส่วนจำเลยที่เหลือศาลยกฟ้อง จากนั้นศาลได้นำตัวนายพูลสวัสดิ์และพวกรวม 3 คนเข้าฝากขังที่ห้องคุมขังชั่วคราวชั้นล่างศาล และช่วงเย็นทั้งหมดได้ถูกนำตัวขึ้นรถไปคุมขังยังเรือนจำกลาง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยมีญาติและลูกน้องคนสนิทเดินทางมาให้กำลังใจหลังคดีดังกล่าวปิดฉากลงหลังยืดเยื้อมานานกว่า 16 ปี
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
