ปปง.ให้ผู้เสียหาย ถูก ‘พิยดา’ ฉ้อโฉง ยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ ค่าเสียหายภายใน 30 วัน
จากกรณี นางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ กับพวก มีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา อันเข้าลักษณะความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยประกาศลงข้อความหรือข้อมูลทางสื่อสังคมออนไลน์เพื่อหลอกขายสินค้าโดยที่ไม่มีสินค้าอยู่จริง มีการโฆษณาเผยแพร่ข้อมูล ที่ไม่มีความเป็นจริง และลักลอบนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นไปลงทะเบียนเพื่อเปิดใช้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
และมีเจตนาอำพรางตนโดยนำหมายเลขดังกล่าวนั้นไปรับโอนเงินที่ได้มาจากการหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นเป็นทอดๆ ซึ่งลูกค้าหรือผู้สั่งซื้อสินค้า จะถูกผู้ขายหรือมิจฉาชีพกำหนดให้ต้องถ่ายภาพใบหน้าคู่กับบัตรประชาชนส่งให้กับผู้ขาย ทั้งนี้ เพื่อเป็นเงื่อนไขในการสั่งซื้อและให้ชำระเงินค่าสินค้าให้แก่ผู้ขายก่อนล่วงหน้า โดยกำหนดให้ลูกค้าชำระเงินผ่านหมายเลขบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ ตามแต่ผู้ขายจะแจ้งให้ทราบ เมื่อมีการโอนเงินชำระค่าสินค้าไปแล้ว ผู้ซื้อจะไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้อีกเลย
โดยต่อมาคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 มีมติเห็นชอบให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รวมทั้งสิ้นจำนวน 10 รายการ ได้แก่ เงินสด, เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร, โทรศัพท์เคลื่อนที่, ที่ดินพร้อม สิ่งปลูกสร้าง เป็นต้น รวมราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 7,944,474.85 บาท พร้อมดอกผล นั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศ ประกาศพนักงานเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ปปง. เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิจากการกระทำความผิดมูลฐาน
ด้วย คณะกรรมการธุรกรรมได้มีมติในการประชุมครั้งที่ ๑๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๔
ให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว ราย นางสาวพิยดา ทองคำพันธ์ กับพวก
(เพิ่มเติม) จำนวน63รายการ พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ อาศัยอำนาจตามความในข้อ – แห่งระเบียบคณะกรรมการธุรกรรมว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๕๙
จึงขอให้ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินจากการกระทำความผิดดังกล่าวข้างต้น และไม่อาจดำเนินการเพื่อขอคืนทรัพย์สินหรือชดใช้คืนความเสียหายดังกล่าวได้ตามกฎหมายอื่นหรือดำเนินการ
ตามกฎหมายอื่นแล้วแต่ไม่เป็นผล ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย
และจำนวนความเสียหายที่ได้รับต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงาน ปปง. ภายในกำหนดเวลา ๓๐ วัน
นับแต่วันที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ การดำเนินการยื่นคำร้องดังรายละเอียดแนบท้ายประกาศนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
พันตำรวจโท ธีรพงษ์ ดุลยวิจารณ์
หัวหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ สำนักงาน ปปง.
๙ ธันวาคม ๒๕๖๔