บช.น.สั่ง 88 โรงพักคุม น.ร.ตีกัน ด้าน ผอ.หนังดังแจงขอความเป็นธรรม-ปัดต้นเหตุอาชีวะเปิดศึก

บช.น.สั่ง 88 โรงพักคุม น.ร.ตีกัน ด้าน ผอ.หนังดังแจงขอความเป็นธรรม-ปัดต้นเหตุอาชีวะเปิดศึก ศธ.จี้สถาบันศึกษารับมือ หลังคลิป ‘กาฬสินธุ์’ บู๊ว่อนเน็ต

ความกังวลหลังภาพยนตร์ 4 KINGS อาชีวะ ยุค 90s เข้าฉายอาจเป็นเหตุให้กลุ่มนักเรียนทะเลาะวิวาทกันมากขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ในฐานะโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า สั่งการให้ตำรวจทั้ง 88 สน. สำรวจพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุยกพวกตีกันตามสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ และจัดส่งกำลังสายตรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบเพิ่มความถี่มากยิ่งขึ้น เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดการยกพวกตีกันตามพื้นที่จุดเสี่ยงจนเกิดความสูญเสียหรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งประสานข้อมูลกับอาจารย์ของแต่ละสถาบันกลุ่มผู้ปกครองและศิษย์เก่าเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความเคลื่อนไหวของนักเรียนแต่ละกลุ่ม ก่อนที่จะเกิดเหตุความรุนแรงขึ้น

“ยอมรับว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุทะเลาะวิวาทกันระหว่างกลุ่มเยาวชนวัยรุ่นและนักเรียนอาชีวะเพิ่มมากขึ้น จึงขอฝากเตือนไปยังกลุ่มเยาวชนและนักเรียนของสถาบันต่างๆ ว่าการยกพวกตีกันจนเกิดความรุนแรงที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ตำรวจจะดำเนินคดีตามข้อหาความผิดต่างๆ ตามกฎหมาย โดยที่ผ่านมาพบว่าผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเยาวชนและวัยรุ่น และอัตราโทษค่อนข้างสูงทำให้เสียอนาคตทางการศึกษาและการเข้าทำงานในอนาคต จึงขอให้ยับยั้งชั่งใจไม่ให้เกิดความรุนแรงต่างๆ ขึ้น” พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าว

นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า ก่อนหน้าหนังเข้าฉายตนได้ทำหนังสือไปถึงบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ และคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ และผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าว เพื่อให้ทบทวนชื่อและเนื้อหาภาพยนตร์ เพราะอาจทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ แต่ทางผู้จัดสร้างก็ยืนยันว่าการจัดสร้างภาพยนตร์ดังกล่าวเพื่อสะท้อนสังคมและให้เห็นผลของการกระทำ ทั้งนี้ หลังจากภาพยนตร์เข้าฉายเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุขึ้นจริงที่ จ.กาฬสินธุ์ ยอมรับค่อนข้างกังวลจึงสั่งการให้วิทยาลัยต่างๆ วางมาตรการป้องกันและดูแลนักเรียน นักศึกษาอย่างเข้มข้น

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความ เบิ่งหนัง กะหยังตีกันเนาะ อินเกินจริง พร้อมคลิปวิดีโอเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นชายหลายสิบคน สวมชุดคล้ายกับนักเรียนนักศึกษาอาชีวะยกพวกวิ่งไล่ตีกันบริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ประตูทางเข้า-ออกฝั่งโรงหนังของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีกาฬสินธุ์ ไปจนถึงบริเวณด้านหน้าของห้าง หลังจากออกมาจากการดูภาพยนตร์เรื่อง 4 KINGS อาชีวะ ยุค 90s ทำให้ประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยและอยู่บริเวณดังกล่าวพากันแตกตื่นและวิ่งหลบเพราะเกรงว่าจะโดนลูกหลง

ด้านนายเนติธร พรพิทักษ์สิทธิ์ ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “4 Kings อาชีวะ ยุค 90s” และประธานคณะทำงานยุทธศาสตร์และนโยบาย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นตัวอย่างหรือส่งเสริมให้ยกพวกตีกัน แต่เป็นภาพยนตร์สะท้อนสังคม ซึ่งอยากรณรงค์ให้เด็กมาดูด้วยซ้ำ ส่วนฉากยกพวกตีกันยอมรับว่ามีอยู่บ้างแต่ไม่มาก ทางค่ายใช้งบประมาณในการโฆษณาเชิญชวนให้เด็กๆ อาชีวะรุ่นใหม่มาดูหนังเรื่องนี้เยอะมาก เพราะได้ไปทำวิจัยว่าเด็กอาชีวะจบใหม่มีประมาณไม่ต่ำกว่า 100,000 คน เลยทำหนังสะท้อนสังคมขึ้นมา เพื่อที่จะให้เด็กและเยาวชนโดยเฉพาะเด็กอาชีวะมาดู เพราะว่าสุดท้ายแล้วคนที่จะต้องรับในส่วนที่ตนเองกระทำก็คือตัวเอง แล้วยังไปถึงครอบครัวและสังคมอีก บทสรุปสุดท้ายทุกคนคือเพื่อนกัน ไม่มีประโยชน์ที่จะมาตีกัน ตอนภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบแรกที่เดอะมอลล์ บางกะปิ เห็นเด็กหลายๆ สถาบันใส่เสื้อช็อปมาดู ตอนมาต่างคนต่างมา แต่ตอนกลับกลับด้วยกัน ทั้งยังเห็นหลายๆ สถาบันมารวมตัวกันถ่ายรูป

“สิ่งที่ภาพยนตร์ตั้งใจจะบอกผู้ชมคือทุกอย่างอยู่ที่ตัวของคุณ เรื่องของศักดิ์ศรีที่ไร้ค่า ได้มาเพื่ออะไร แล้วทางเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือจะเป็นทางตัน อยู่ที่ตัวเองเป็นคนเลือก คุณเกเร ไปตีกัน สุดท้ายก็ต้องติดคุก สังคมได้รับความเดือดร้อน แล้วถ้าถึงขั้นบาดเจ็บล้มตาย คนที่เสียใจที่สุดก็คือพ่อและแม่ ครอบครัว ก่อนหน้านี้ได้นำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวให้นายภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการดูแล้วก็ยังแสดงความพึงพอใจ อย่างไรก็ดี ผมเคยเรียนช่างกลมาก่อน เคยผ่านเรื่องราวที่ไม่ดี รวมถึงการทำอะไรตามความเชื่อผิดๆ จากรุ่นสู่รุ่น รุ่นพี่สู่รุ่นน้อง ส่วนตัวเห็นว่าเป็นวัฒนธรรมที่ผิด และก็อยากให้มีการเข้มงวดกับรุ่นพี่ที่ส่งเสริม ยุยงให้เด็กอาชีวะมาตีกัน เรื่องการปลูกฝังการรักสถาบันในทางที่ผิด” นายเนติธรกล่าว และว่า ตอนส่งหนังให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ตรวจก็ไม่มีปัญหาอะไร ได้เรตเป็น 15 บวก ส่วนเรื่องที่มีคนบางกลุ่มมองว่ามีเด็กบางส่วนจะลอกเลียนแบบจากภาพยนตร์นั้น เป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม อยากให้ทุกคนที่มีแนวคิดแบบนี้มาดูหนังเรื่องนี้ แล้วจะทราบว่าหนังเรื่องนี้สอนและให้บทเรียนอะไรกับสังคม ขอความเป็นธรรมให้หนังเรื่องนี้ด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image