ชาวบ้านผวา หวั่นเด็กติดเชื้อโควิด หลังคลัสเตอร์บ่อนไก่ชนป่วยเกือบ 30 ราย ชี้บ่อนป่ามีหลายแห่ง

ชาวบ้านผวา หวั่นเด็กติดเชื้อโควิด หลังคลัสเตอร์บ่อนไก่ชนป่วยเกือบ 30 ราย เผยบ่อนป่ามีหลายแห่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 คลัสเตอร์ลักลอบชนไก่ ในพื้นที่ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 30 คน กระจายอยู่ในหลายหมู่บ้าน โดยเฉพาะในหมู่บ้านหนองรังกา หมู่ที่ 12 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีชายวัยกลางคน 1 ราย ติดเชื้อมาจากการนำไก่ชนไปซ้อมชนกับเพื่อนบ้านในป่าละเมาะ ห่างออกจากหมู่บ้านหลายกิโลเมตร ก่อนที่จะตรวจพบติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 11 ม.ค.65

หลังจากนั้นมีการตรวจกลุ่มที่นำไก่ชนไปร่วมซ้อมชนไก่ ซึ่งอาศัยอยู่ในหลายหมู่บ้าน พร้อมกับครอบครัวที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสูง พบว่ามีผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้แล้วเกือบ 30 ราย ล่าสุดมีชาวบ้านโคกเพชร หมู่ที่ 14 ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา ติดเชื้อจากคลัสเตอร์นี้ทั้งครอบครัว รวม 5 ราย ทำให้ชาวบ้านเกิดความตื่นกลัวเป็นอย่างมาก

ล่าสุด วันนี้ (14 มกราคม 2565) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หมู่บ้านหนองรังกา หมู่ที่ 12 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่าชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัวกับการระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นอย่างมาก จากการสอบถามนางวาสนา จังสันเทียะ อายุ 43 ปี ชาวบ้านกล่าวว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีคนในหมู่บ้าน ติดเชื้อมาจากบ่อนไก่ ก็ทำให้ตนเองรู้สึกวิตกกังวลมาก เพราะไม่รู้ว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนหรือไม่ เนื่องจากในบ้านของตนเองก็มีเด็กเล็กๆ อยู่หลายคน ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน จึงเป็นห่วงกลัวจะติดเชื้อได้ ตอนนี้ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ และเว้นระยะห่าง

Advertisement

ทั้งนี้ คนที่ติดเชื้อเห็นว่านัดกันนำไก่ชนไปชนในป่าละเมาะห่างไกลจากหมู่บ้าน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่คนในหมู่บ้านมักจะพากันไปชนไก่ แต่ไม่ใช่บ่อนขนาดใหญ่ เป็นการนัดกันไปเป็นกลุ่มๆ เนื่องจากในหมู่บ้านก็จะมีชาวบ้านเลี้ยงไก่ชนกันเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขึ้น ซึ่งตอนนี้คนที่ติดเชื้อก็รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเทพรัตน์นครราชสีมา ส่วนคนในหมู่บ้านที่ใกล้ชิดก็กลายเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องตรวจ ATK และกักตัวเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ด้านนายสำราญ เทินสะเกษ ผู้ใหญ่บ้านหนองรังกา หมู่ที่ 12 ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า หมู่บ้านแห่งนี้มีอยู่กว่า 600 หลังคาเรือน มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 2,000 คน แต่ผู้ติดเชื้อนั้นอยู่ในคุ้มที่ 5 และมีเพื่อนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงซึ่งไปชนไก่ด้วยกันอยู่คุ้มที่ 2 ดังนั้นวันนี้ตนเองจึงได้เรียกกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด 62 ราย มาตรวจ ATK ซึ่งเบื้องต้นผลออกมาว่าไม่มีเชื้อทั้งหมด แต่ก็ได้ให้กลุ่มเสี่ยงกักตัวอยู่ที่บ้านจนครบ 14 วันก่อน เพื่อดูอาการ

ส่วนชาวบ้านก็ได้มีการประกาศเสียงตามสายให้ป้องกันตัวอย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือให้อยู่ในแต่บ้านหลังเวลา 22.00 น.เป็นต้นไป ทั้งนี้สำหรับการชนไก่ ก็ถือว่าเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ซึ่งเกือบทุกบ้านจะมีการเลี้ยงไก่ชนเป็นงานอดิเรกสำหรับผู้ชาย และมักจะมีการซ้อมชนไก่ เพื่อเพิ่มมูลค่าไก่ ทำให้มีการซื้อขายไก่เป็นรายได้เสริม แต่ตั้งแต่ตรวจพบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากกรณีซ้อมชนไก่ ก็ทำให้ผู้เลี้ยงไก่ชนทุกคนเลิกซ้อมไก่ชนกันหมดแล้ว เพราะต่างคนก็ต่างกลัวติดเชื้อโควิด-19 กัน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจในป่าละเมาะ ห่างจากหมู่บ้านออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร ที่ชาวบ้านบอกว่ามักจะเป็นสถานที่นัดพบของกลุ่มคนไก่ชน เพื่อไปซ้อมชนไก่กัน หรือที่มักจะเรียกว่าบ่อนป่า พบว่าสถานที่ดังกล่าว จะมีทางเข้าไปเป็นถนนลูกรัง และวิ่งลึกเข้าไปในป่าละเมาะประมาณ 300-400 เมตร โดยมีต้นไม้บดบังมิดชิด สามารถหลบเลี่ยงสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เป็นอย่างดี และบริเวณที่ซ้อมไก่ชนก็จะมีร่องรอยการถางหญ้า ตัดต้นไม้ให้โล่งเตียน

โดยมักจะมีต้นไม้ปกคลุมร่มรื่น เหมาะกับการนั่งชมไก่ชนกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ประมาณ 10-15 คน ซึ่งชาวบ้านหลายคนบอกว่าส่วนใหญ่จะพากันนัดไปชนไก่ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากเป็นช่วงที่คนเลี้ยงไก่ชนหยุดงานพร้อมกัน จึงมักจะพบเห็นคนขี่รถจักรยานยนต์นำไก่ชนตระเวนไปหาชนไก่ในป่าละเมาะบ่อยครั้ง ซึ่งบ่อนป่าลักษณะนี้มีอยู่หลายแห่ง เพราะมักจะนัดชนไก่กันในสถานที่ไม่เป็นถาวร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image