เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 11 ตุลาคม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบก.สปพ.พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.ธรรมนูญ บุญเรือง ผกก.สน.วังทองหลาง พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจปฎิบัติการพิเศษ 191 ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย (หน่วยอรินทราช 26) ฝ่ายสืบสวน บก.น.4 เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.หัวหมาก และเจ้าหน้าที่ทหารกว่า 100 นายได้สนธิกำลังบุกตรวจค้นตามหมายค้นและหมายจับในพื้นที่หัวหมากและวังทองหลางจำนวนหลายจุด เพื่อป้องกันและปราบปรามการก่อเหตุอาชญากรรม โดยเข้าค้นอาคารร่มเกล้าแมนชั่น ภายในซอยรามคำแหง 65/1 (ซอยมหาดไทย) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ที่อาคารดังกล่าวสูง 8 ชั้น บริเวณชั้นที่ 8 เจ้าหน้าที่จากกองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย (หน่วยอรินทราช 26) ได้บุกตรวจค้นภายในห้อง 801,803,805,813,814 สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 8 คน ก่อนจะนำตัวมาที่สน.หัวหมาก
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การเข้าค้นในพื้นที่หัวหมากนั้นเป็นการขยายผลมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับผู้ต้องหาพร้อมของกลางเป็นปืนจำนวน400กระบอกได้ในพื้นที่ต.ปากน้ำอ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนจะขยายผลหาผู้ที่ซื้อปืนจากผู้ต้องหารายดังกล่าว โดยการตรวจค้นครั้งนี้เป็นการป้องปรามอาชญากรรมในครั้งนี้ก็เป็นการกาดล้างทั้งอาชญากรรมทั่วไป และอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้ประเทศไทยเรายังเป็นเจ้าภาพในการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่2(ACD) และประชุมเพิ่งแล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา จึงต้องแสดงกำลังปิดล้อมตรวจค้นเพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความมั่นใจ เนื่องจากสมัยนี้คนร้ายที่ก่อเหตุอาชญากรรมนั้นมักจะใช้อาวุธที่รุนแรงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้หลายหน่วยประสานกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น โดยใช้เจ้าหน้าที่จากอรินทราชช่วยในการบุกตรวจค้น และเพิ่มกำลังทั้งตำรวจพื้นที่และ191 สนธิกำลังลงพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ยังประสานให้ฝ่ายนิติวิทยามาช่วยในเรื่องการเก็บข้อมูล อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการเข้าตรวจค้นจุด หรือกลุ่มบุคคลใดเป็นพิเศษ แต่ดำเนินการไปตามกฎหมาย
ด้านพล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวต่อว่า วันนี้ได้มีการแบ่งกำลังออกเป็น2ฝ่ายเพื่อเข้าตรวจที่ร่มเกล้าแมนชั่น ในพื้นที่หัวหมากและเอส.เค.อพาร์ทเม้นท์ พื้นที่วังทองหลาง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวนหลายคน ส่วนใหญ่เป็นความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดประเภทที่5(กระท่อม) จากการตรวจค้นไม่พบความผิดที่เกี่ยวกับเครื่องกระสุนอาวุธปืน หรือผู้ต้องหาที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ นอกจากนี้การปราบปรามครั้งนี้ยังเป็นการตรวจดูความเคลื่อนไหวของบุคคลในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังเหตุอีกด้วย
