โฆษกบช.น.เผย เตรียมแจ้ง 2 ข้อหา ‘เค ร้อยล้าน’ ปาแก้วในห้าง เป็นผู้ป่วยจิต ทำได้แค่ปรับ

โฆษกบช.น. เผย เตรียมแจ้ง 2 ข้อหา’เค ร้อยล้าน’ปาแก้วในศูนย์การค้า เป็นผู้ป่วยโรคจิตอารมณ์แปรปรวน ทำได้เพียงเปรียบเทียบปรับ เผยถ้าทำผิดซ้ำอีก เอาผิดญาติ ฐานปล่อยปละละเลย

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น ในฐานะโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. ร่วมแถลงความคืบหน้ากรณี ชายคลั่งฉายา”เค ร้อยล้าน”ก่อเหตุปาแก้วในศูนย์การค้าชื่อดังดังย่านปทุมวัน เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า บุคคลดังกล่าวเป็นคนเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายตนเองและปล่อยงูที่แยกราชประสงค์เมื่อปี 2562 และเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 บนถนนราชดำริ ฝั่งหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยใช้อาวุธมีดทำร้ายตัวเอง พร้อมทั้งปล่อยงูเห่า 3 ตัว ซึ่งของคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี กำลังอยู่ระหว่างรอผลตรวจแอลกอฮอล์และผลตรวจพิสูจน์สารเสพติด รวมทั้งผลตรวจสภาพจิตของผู้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งผลการตรวจของ รพ.ตำรวจ ยังไม่ออกมา จึงอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของ และหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด ก็จะมีการเเจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติม ส่วนทางด้านคดี ของสน.ปทุมวัน ที่ปาแก้ว ที่เกิดเหตุล่าสุด ขณะนี้ทางฝ่ายกฎหมายของศูนย์การค้าดังกล่าว ก็ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน โดยเบื้องต้นจะดำเนินคดี ข้อหาทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึง โดยไม่มีเหตุอันสมควร และ ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตำรวจจะต้องมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของสุขภาพและความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตของผู้ป่วย เพื่อบังคับผู้ป่วยให้เข้ารับการรักษา และเป็นการร่วมกันหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรงในอนาคต เนื่องจากที่ผ่านมา ในใบรับรองแพทย์ของผู้ก่อเหตุรายนี้ได้มีการระบุว่า เป็นผู้ป่วยโรคจิตอารมณ์แปรปรวน โดยได้มีการเข้ารักษาที่รพ.สมเด็จเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2562 แต่ปัจจุบันได้ปฏิเสธที่จะเข้าไปรับยาเพื่อใช้สำหรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บุคคลใกล้ชิดหรือญาติที่เป็นผู้ดูแลผู้ป่วย หากผู้ป่วยมีการกระทำความผิดซ้ำ ญาติและผู้ดูแลก็จะต้องร่วมรับผิดชอบ เพราะเป็นการปล่อยปละละเลย

ส่วนการดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุรายนี้ ที่ได้ก่อเหตุซ้ำนั้น ควรจะบรรยายให้ศาลเห็นถึงพฤติการณ์ดังกล่าว และมีคำสั่งออกมาหรือไม่ ทาง พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า เนื่องจากความผิดที่เกิดขึ้น เป็นความผิดลหุโทษ ส่วนใหญ่จะเป็นความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และ พ.ร.บ.จราจร ก็จะเป็นการเปรียบเทียบปรับ ซึ่งจบในชั้นพนักงานสอบสวนเท่านั้น และด้วยเหตุที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะประสานข้อมูลกับรพ.ที่ทำการรักษาผู้ก่อเหตุรายนี้ จึงไม่สามารถส่งเรื่องไปชั้นศาลเพื่อดำเนินการต่อได้

Advertisement

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายในสังคมมองว่าผู้ก่อเหตุมีการกระทำผิดซ้ำบ่อยครั้ง จะเข้าข่ายบุคคลอันตรายหรือไม่ ทาง พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า บุคคลดังกล่าวถือเป็นบุคคลที่น่าสงสาร เนื่องจากเป็นคนป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ยืนยัน ดังนั้นจึงอยากประชาสัมพันธ์ให้กับญาติพี่น้องและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ให้มีการดูแลผู้ก่อเหตุดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

“แนวทางการป้องกันเหตุของตำรวจคงทำได้ในเรื่องการประชาสัมพันธ์ ให้ทราบว่าคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นในเรื่องนี้ ต้องเอาในใส่เป็นพิเศษเพื่อเป็นการป้องกันเหตุซ้ำ” รองโฆษก ตร.กล่าว

ล่าสุดตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊กส่วนตัวของชายคนดังกล่าว พบว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวนำงูเห่าใส่ถุงและเข้าพักที่โรงแรมดังกลางเมืองแห่งหนึ่ง ก่อนโพสต์คลิปถุงใส่งูเห่าที่ถูกวางไว้บนเตียงนอนของโรงแรม พร้อมแคปชั่นสรุปว่า “พาพี่ๆพญางูเห่า อสรพิษร้ายแรงที่สุดในโลก ให้ตื่นเช้า ชมบรรยากาศ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ณ โรงแรมหรู”

Advertisement

อ่าน : ระทึก! ชายคลั่งจอดเบนซ์กลางถนน ปล่อยงู ทำร้ายตัวเอง พบคนเดียวปี 62 ‘เค ร้อยล้าน’

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image