จุดจบคนขายกัญชาออนไลน์ บช.น.จับหนุ่ม 21 ลอบขายตั้งแต่ปี’64 มีส่งพระเครื่องมัดใจลูกค้า

จุดจบคนขายกัญชาผ่านเฟซบุ๊ก-ไลน์ บช.น.จับหนุ่ม 21 ลอบขายตั้งแต่ปี’64 แถมส่งพระเครื่องมัดใจลูกค้า

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ พ.ต.อ.สราวุฒิ คนใหญ่ รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. และ พ.ต.ต.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. นำกำลังร่วมกันจับกุม นายทศวรรณ จันตรี อายุ 21 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองอันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทกัญชา น้ำหนักรวมประมาณ 2,502.1 กรัม พร้อมตรวจยึดของกลางที่เกี่ยวข้องกับคดี จำนวน 51 รายการ ได้ที่ภายในร้านรับส่งพัสดุเอกชน ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ที่ห้องพักภายในโครงการเอื้ออาทรท่าจีน เมื่อวันที่ 28 มี.ค.

พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าเฟซบุ๊กชื่อ “อิสานเขียว สี่สองศูนย์” มีการลักลอบจำหน่ายกัญชา ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 โดยผิดกฎหมาย ผู้ต้องหาจะใช้วิธีการประกาศหาลูกค้าในกลุ่มเฟซบุ๊กที่นิยมเสพกัญชา เช่น กลุ่ม “คำคมสายเขียว” , กลุ่ม “สหายสายเขียว” , กลุ่ม “เรารักกัญ” โดยแจ้งรายละเอียดการสั่งซื้อให้ลูกค้าทราบ เพื่อให้ลูกค้าแอดไลน์ผ่าน ID เมื่อมีลูกค้าสนใจแอดไอดีไลน์เสร็จเรียบร้อยจะมีการพูดคุยกับลูกค้า ซึ่งลูกค้าคนใดทำการสั่งซื้อกัญชาแล้ว ต่อมาผู้ต้องหาจะเชิญเข้ากลุ่มไลน์ชื่อว่า “บังเขียว” ซึ่งกลุ่มนี้จะมีสมาชิกประมาณ 100 คน

พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวอีกว่า จากนั้นเมื่อสมาชิกคนใดในกลุ่มมีการสั่งซื้อกัญชาเป็นประจำ ผู้ต้องหาจะคัดเลือกและเชิญสมาชิกนั้นๆ เข้ากลุ่มไลน์ชื่อว่า “กลุ่มจบงานสหายเขียว” โดยกลุ่มนี้จะมีสมาชิกประมาณ 40 คน แต่ละคนล้วนเป็นลูกค้าขาประจำที่ซื้อขายกันมานานจนรู้ใจ โดยผู้ต้องหาจะมีการส่งพระเครื่องแถมไปให้กับลูกค้าที่เข้ากลุ่มลูกค้าขาประจำในครั้งแรกนี้ด้วยเพื่อเป็นการขอบคุณ และมัดใจลูกค้าที่มาอุดหนุน

Advertisement

“ผู้ต้องหารับว่าเริ่มจำหน่ายกัญชาผ่านช่องทางออนไลน์มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 โดยเริ่มต้นจากการเป็นผู้เสพกัญชามาก่อน และสั่งซื้อกัญชาผ่านเฟซบุ๊กชื่อบัญชี ‘โคตรเสี่ย’ ต่อมาเห็นว่าการจำหน่ายกัญชาผ่านช่องทางออนไลน์เป็นวิธีที่หาเงินได้ง่าย ประกอบกับช่วงนั้นตนเองมีสถานะว่างงาน จึงเริ่มจำหน่ายกัญชาผ่านช่องทางออนไลน์มาตั้งแต่บัดนั้น มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 75,000 บาท เงินที่ได้เอามาใช้จ่ายในครอบครัวและเล่นพนันออนไลน์ จึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลาง พงส.สภ.เมืองสมุทรสาคร ดำเนินคดีต่อไป” พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image