เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 19 ตุลาคม ร.ต.อ.ธนกร เจิมรอด รอง สว.(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและมีการจับตัวประกันภายในบ้านพักเลขที่ 622/24 ซอยเพิ่มสิน 20 แยก 5-3 แขวงคลองถนน เขตสายไหม รุดไปพร้อม พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.อำนาจ หาญชนะ รองผกก.ป. พ.ต.ท.ปรเมษฐ โพยนอก รองผกก.สส. พ.ต.ท.วชิรวิทย์ การกวี สว.สส. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิดภายในตัวบ้านพบนางเมตตา เพ็งศิริ อายุ 58 ปี สวมเสื้อชั้นในสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าบริเวณใต้คาง 1 นัด และใต้ซี่โครงซ้ายอีก 1 นัด นอนจมกองเลือด หายใจรวยรินอยู่ที่พื้นบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ชีพคุ้มเกล้าเร่งนำผู้บาดเจ็บส่ง รพ.เป็นการด่วน
จากการตรวจสอบพบอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก บริเวณหน้าบ้านนอกรั้วยังพบอาวุธขนาด 11 มม. พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ทั้งนี้ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ทราบชื่อ นายชิเกรุ โมริตะ อายุ 60 ปี สัญชาติญี่ปุ่น อยู่ระหว่างนำตัวไปสอบสวนที่ สน.บางเขน
สอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่าก่อนเกิดเหตุมีชายขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อซูซูกิ บีท สีทอง ทะเบียน กบย 921 เพชรบุรี มาจอดและเดินเข้าไปในบ้านโดยที่สุนัขภายในบ้านปกติแล้วจะเห่าคนแปลกหน้าเสมอ แต่ครั้งนี้กลับเงียบไป เวลาผ่านไปไม่นานเริ่มได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายเพื่อนบ้านจึงพากันออกมามุงดูหน้าบ้านจึงเห็นชายคนดังกล่าวถืออาวุธปืนตะโกนโวยวายเป็นภาษาญี่ปุ่นอยู่บริเวณประตูหน้าบ้าน และแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบจึงทราบว่าภายในบ้านมีเพียงเด็กชาย และหญิงสูงวัย ส่วนชายคนดังกล่าวไม่สามารถเข้าไปในตัวบ้านได้เนื่องจากประตูล็อกจากด้านใน ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จึงพากันตะโกนเกลี้ยกล่อมให้ใจเย็นก่อนผู้ก่อเหตุจะทุบกระจกและใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปในบ้าน 1 นัด ชาวบ้านพากันวิ่งหนีก่อนจะเดินเอาอาวุธปืนขนาด 11 มม. พร้อมนำลูกกระสุนออกจากแม็กกาซีน มาวางไว้นอกรั้วบ้าน และขอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่สุด
พ.ต.อ.อำนาจ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุนายชิเกรุ ได้ใช้ให้เพื่อนคนไทยเขียนจดหมาย 1 ฉบับเป็นภาษาไทย ข้อความในจดหมายระบุเกี่ยวกับเรื่องบ้านที่ดิน และขู่ว่าจะฆ่ายกครัว ส่วนการสอบสวนญาติผู้บาดเจ็บทราบว่าทางนายชิเกรุ และนางเมตตา หย่าร้างกัน และตกลงเรื่องทรัพย์สินเช่นบ้านที่ดินที่ประเทศไทย และเครื่องจักรหลอมพลาสติก ศาลได้ตัดสินให้นายชิเกรุ แพ้คดีไปแล้ว จึงทำให้นายชิเกรุ เกิดความโกรธแค้น และคิดว่านางเมตตา หลอกใช้และปอกลอกเอาทรัพย์สมบัติ
พ.ต.อ.อำนาจกล่าวต่อว่า อาการของนางเมตตา ปลอดภัยแล้วโดยกระสุนลูกปลายเฉี่ยวปลายคาง และเข้าชายโครงซ้ายเท่านั้น เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวนตัวนายชิเกรุเพื่อหาเหตุจูงใจในการก่อเหตุที่แท้จริง ต้องประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยมาร่วมสอบปากคำด้วย
