ม.ล.ปนัดดาบรรยายหลักสูตรยธส.13 ระบุผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมต้องมีคุณธรรมจริยธรรม
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา, รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์, ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส, รองประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการสร้างคนดี คนเก่ง สู่สังคมเพื่อพัฒนาชาติไทยอย่างยั่งยืน, ประธานที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการด้านคุณธรรมและจริยธรรม, กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง, กรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ วุฒิสภา บรรยายพิเศษ เรื่อง “การพัฒนากระบวนการยุติธรรมด้วยหลักคุณธรรมจริยธรรม” ให้แก่ บุคลากรระดับสูงจากหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเข้ารับการฝึกอบรมตามโครงการฝึกอบรมหลักสูตรการบริหารงานยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 13 (ยธส.13) จัดโดย สถาบันพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม ณ วิทยาลัยกิจการยุติธรรม สถาบันพัฒนาบุคลากรในกระบวนการยุติธรรม สำนักงานกิจการยุติธรรม กระทรวงยุติธรรม อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา
หม่อมหลวงปนัดดา กล่าวในความตอนหนึ่งว่า “กระบวนการยุติธรรมเป็นเรื่องที่มีความสําคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมีผลกระทบต่อประชาชน เพราะเป็นกระบวนการวินิจฉัยข้อขัดแย้งของบุคคลในสังคมให้ได้รับความเป็นธรรม และก่อให้เกิดความสงบสุขแก่สังคม ทั้งยังเป็นสาระสําคัญของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยภายใต้หลักนิติธรรม
ในการพัฒนากระบวนการยุติธรรมด้วยหลักคุณธรรมจริยธรรม มีจุดมุ่งหมาย คือ การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และการรักษาความร่มเย็นเป็นสุขของสังคม ซึ่งสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในตัวบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง ได้แก่ การดำรงชีวิตด้วยความพอเพียง มีความกตัญญูรู้คุณแผ่นดิน มีความสัตย์ซื่อสุจริต มีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ พึ่งตนเอง อดทนอดกลั้น มีความสุขุมคัมภีรภาพและมีความเป็นสุภาพชนแแบบอย่างให้แก่ผู้คนในสังคม มีจิตใจโอบอ้อมอารีและมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความรู้รักสามัคคีให้เกิดขึ้นแก่ผู้คนในชาติ ซึ่งรวมถึงผู้บริหารองค์กรที่มีส่วนสำคัญในการแสดงบทบาทผู้นำที่ดี เป็นต้นแบบสำคัญในการสร้างจริยธรรมคุณธรรมให้กับสมาชิกในองค์กร องค์กรจะมีวัฒนธรรมที่มีจริยธรรมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการมีจริยธรรมคุณธรรมของผู้บริหาร
ซึ่งหากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมทุก ๆ ระดับดำรงตนอยู่ในคุณธรรมจริยธรรมอันกล่าวมาข้างต้น ความศรัทธาเชื่อมั่นในกระบวนยุติธรรมย่อมจะดำรงความศักดิ์สิทธิ์และมีพัฒนาการที่ดีขึ้น อันจะช่วยเป็นหลักในการดำรงความสง่างามให้แก่สังคมและประเทศชาติ ทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความสงบสุขของประชาชนคนไทยและความสง่างามของประเทศไทยใต้ร่มพระบารมี ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญของการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญรุ่งเรืองต่อไปภายภาคหน้า”
