เสี่ยขายปุ๋ยหายตัว 6 วัน แม่วัย 73 หอบหลักฐานแจ้งความ มืดแปดด้าน ไม่รู้อยู่ที่ไหน

เสี่ยขายปุ๋ยหายตัว 6 วัน แม่วัย 73 หอบหลักฐานแจ้งความ มืดแปดด้าน ไม่รู้อยู่ที่ไหน วอนช่วยเร่งติดตาม ทุกคนเป็นห่วงมาก

เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2565 แม่เฒ่าวัย 73 ปี ชาวจังหวัดสระบุรี พร้อมญาติๆ หอบหลักฐานเข้าแจ้งความตามหาลูกชายวัย 52 ปี ที่เดินทางมาเยี่ยมญาติที่จังหวัดสกลนคร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ก่อนจะขาดการติดต่อและหายตัวไปพร้อมกับรถยนต์กระบะนาน 6 วัน ญาติพยายามติดต่อด้วยการโทรศัพท์หา แต่ติดต่อไม่ได้ จนกระทั่งมีพลเมืองดีเก็บโทรศัพท์มือถือของลูกชายได้บนถนนมิตรภาพ ในพื้นที่อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น วอนตำรวจช่วยหาเบาะแส ไม่รู้เป็นตายร้ายดี

จากกรณี เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 22 เมษายน 2565 ที่สถานีตำรวจภูธรน้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นางราตรี ประทัยเทพ อายุ 73 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 3/7 หมู่ 6 ต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี พร้อมด้วย น.ส.จันทร์เพ็ญ ประทัยเทพ อายุ 47 ปี ลูกสาวของนางราตรี และญาติๆ ได้นำหลักฐานเป็นภาพถ่ายของ นายนพดล ประทัยเทพ อายุ 52 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 16 ต.วานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร สำเนาภาพถ่ายรถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ญต 9349 กรุงเทพมหานคร

และโทรศัพท์มือถือของนายนพดล ประทัยเทพ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ณัฐนนท์ รัตนวงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น หลังจากที่นายประทัยเทพ ลูกชายของนางราตรี ได้หายตัวไปโดยไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เป็นเวลา 6 วัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้นายประทัยเทพได้เดินทางจาก อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อมาเยี่ยมญาติและร่วมงานทำบุญกับกลุ่มเพื่อนที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา

ด้าน น.ส.จันทร์เพ็ญ น้องสาวของนายนพดล ประทัยเทพ เล่าว่า ก่อนที่พี่ชายจะหายตัวไป เมื่อประมาณวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา พี่ชายได้บอกกับแม่และญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ที่ จ.สระบุรี ว่าจะเดินทางมาเยี่ยมญาติและทำบุญกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งพี่ชายก็จะเดินทางมาที่ จ.สกลนคร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี โดยในวันที่เดินทางพี่ชายได้ขับรถยนต์ของตัวเองมาขอเปลี่ยนเอารถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อ ISUZU D-MAX ของตนเองไปเพื่อสะดวกต่อการเดินทางไกล ซึ่งพี่ชายก็ได้เดินทางไปถึง จ.สกลนคร ตามที่บอกกับแม่และญาติ ในช่วงค่ำของวันที่ 11 เมษายน อีกทั้งยังเห็นว่าพี่ก็ชายสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนๆ ตามปกติ และแม่กับน้องสาวก็ยังสามารถติดต่อกับพี่ชายทางโทรศัพท์มือถือได้

Advertisement

จนกระทั่งวันที่ 14 เมษายน พี่ชายได้โทรศัพท์มาขอเงินแม่ จำนวน 2,000 บาท เพื่อเติมน้ำมันรถยนต์ ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่แม่ได้คุยกับพี่ชาย แต่ก็ได้ทราบจากญาติที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ว่าพี่ชายยังอยู่ที่นั่นจนกระทั่งถึงวันที่ 16 เมษายน พี่ชายได้บอกญาติที่นั่นว่าจะเดินทางกลับ จ.สระบุรี ญาติที่นั่นจึงโทรศัพท์มาบอกให้แม่ทราบว่า พี่ชายกำลังจะเดินทางกลับมา แต่จนถึงช่วงค่ำก็ยังไม่เห็นพี่ชายมาถึงบ้านที่ จ.สระบุรี ก็ยังคิดว่าพี่ชายอาจจะแวะไปหาเพื่อนๆ ที่อยู่ในเส้นทางกลับบ้าน พอรุ่งเช้าของวันที่ 17 เมษายน จึงได้โทรศัพท์ไปหาแต่ก็โทรไม่ติด พยายามโทรหาตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำก็ยังติดต่อไม่ได้ และพี่ชายก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา

จนกระทั่งล่วงเข้าสู่วันที่ 19 เมษายน น้องสาวคนเล็กได้โทรติดต่ออีกครั้ง ปรากฏว่า โทรติดและมีคนรับสาย แต่คนที่รับสายกลับไม่ใช่พี่ชาย แต่เป็นคนขับรถบรรทุกส่งสินค้าระหว่างภาคอีสานไปยังภาคเหนือ โดยบอกกับน้องสาวคนเล็กว่าเก็บโทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ได้ในเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 17 เมษายน โดยพบตกอยู่บริเวณทางคู่ขนาน ถนนมิตรภาพขาเข้าเมืองขอนแก่น หน้าร้านโจ๊กบ้านหินกอง ต.น้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น จึงได้เก็บขึ้นมาดูพบว่าแบตเตอรี่หมด จึงได้เก็บเอาไปด้วย ก่อนจะนำไปชาร์จแบตเตอรี่และลองเปิดเครื่องดู แต่ก็เข้าเครื่องไม่ได้เพราะโทรศัพท์ใส่รหัสเอาไว้ กระทั่งน้องสาวตนเองได้โทรเข้าไปจึงได้ทราบว่าพี่ชายของเดินทางผ่านมาในพื้นที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ก่อนที่น้องสาวและคนขับรถบรรทุกสินค้าจะประสานขอรับโทรศัพท์มือถือที่เก็บได้คืน โดยคนขับรถขนส่งสินค้าได้นำเอามาส่งคืนให้ในอีกประมาณ 2 วันต่อมา

น.ส.จันทร์เพ็ญเล่าอีกว่า หลังจากที่ทางญาติได้โทรศัพท์มือถือของนายนพดล ประทัยเทพ กลับมา ก็ได้เข้าตรวจสอบดูว่าพี่ชายได้มีการติดต่อหาใคร หรือมีการนัดแนะกับใครเพื่อไปหาหรือไม่ เนื่องจากครอบครัวทราบรหัสผ่านของโทรศัพท์พี่ชาย แต่จากการตรวจสอบดูการโทรออกหรือรับสายก็ไม่พบว่าได้ติดต่อไปหาใคร อีกทั้งเฟซบุ๊กและไลน์ ก็ไม่พบว่าได้มีการนัดหมายกับใคร ครอบครัวลองโทรศัพท์ไปสอบถามจากเพื่อนๆ ของพี่ชายก็ไม่มีใครพบเห็นพี่ชาย ลองสอบถามเพื่อนของพี่ชายที่เป็นเครือข่ายกู้ภัยก็ไม่มีการรับแจ้งเรื่องอุบัติเหตุทางถนน หรือพบรถยนต์ที่พี่ชายขับขี่ ทำให้ตอนนี้ครอบครัวเป็นกังวลใจอย่างมาก เพราะพี่ชายไม่เคยหายตัวไปนานขนาดนี้ หรือแม้จะเดินทางไปที่ไหนไกลๆ ก็จะโทรศัพท์กลับมาบอกให้ทางบ้านทราบตลอด

Advertisement

ยืนยันว่าพี่ชายไม่ได้มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งใดๆ กับคนในครอบครัว หรือมีศัตรูที่ไหน เพราะเป็นคนโสด นิสัยดี สนุกสนาน แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ทราบว่าพี่ชายเป็นตายร้ายดีอย่างไร การมาแจ้งความวันนี้ก็เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่โทรศัพท์มือถือของพี่ชายตกหล่น เพราะอย่างน้อยก็จะได้ทราบว่าเหตุใดโทรศัพท์ของพี่ชายจึงมาตกอยู่ที่นี่ พี่ชายทำตกหล่นเองหรือไม่ หรือพี่ชายได้เดินทางมาที่นี่คนเดียวหรือกับใครหรือไม่ เพราะขณะนี้ครอบครัวมีเพียงเบาะแสนี้อย่างเดียวเท่านั้นที่ทำให้ทราบความเคลื่อนไหวของพี่ชาย นับตั้งแต่ที่ติดต่อไม่ได้มาตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หากใครพบเห็นพี่ชายที่มีรูปพรรณตามภาพ เป็นชายผมสั้น สูงประมาณ 173 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 72-75 กิโลกรัม ผิวดำแดง มีลายสักข้อความภาษาอังกฤษ คำว่า “SEX” ที่ต้นแขนขวา และลายสักคล้ายมังกรหรือปลาคราฟที่ต้นแขนซ้าย หรือ พบรถยนต์กระบะตามภาพ โดยมีจุดสังเกตคือเป็นล้อแม็ค สีดำแดง สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-8520-0883 หรือ 09-7414-7782 และ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โทร 0-4343-1443

ล่าสุด วันนี้เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้าน น.ส.จันทร์เพ็ญ ประทัยเทพ อายุ 47 ปี และนางราตรี ประทัยเทพ อายุ 73 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 3/7 หมู่ 6 ต.บัวลอย อ.หนองแค จ.สระบุรี เพื่อขอพบและขอความคืบหน้าในการติดตามนายนพดล ประทัยเทพ อายุ 52 ปี

ด้าน นางราตรี ประทัยเทพ ผู้เป็นแม่ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเองคิดถึงลูกชายมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ลูกของตนเป็นคนดี ไม่เกเรและก็ไม่ใจร้อน เพื่อนฝูงเยอะ ทำงานส่งน้องเรียนจบสูงทุกคน ทุกวันก็นอนอยู่ด้วยกัน ตนอยากให้ลูกชายของตนถ้ายังมีชีวิตอยู่ก็ให้กลับมาบ้าน แม่คิดถึงมาก ส่วนรถไม่ได้คืนมาก็ไม่เป็นไร ตนเองยังมีความหวังอยู่ ลูกชายเคยบอกว่าจะเปลี่ยนรถยนต์ใหม่เพราะรถที่ใช้อยู่มันเก่าแล้ว อยากให้กลับมา ส่วนน้องชายที่อยู่บ้านบ้านเดียวกันก็นั่งสมาธิทุกวันภาวนาอยากให้พี่ชายกลับมา

ส่วน น.ส.จันทร์เพ็ญ น้องสาวของนายประทัยเทพ กล่าวว่า พี่ชายไปคนเดียว ปกติจะไปกับแม่ตลอดแต่ปีนี้แม่ไม่ได้ไปด้วย พี่ชายจะไปช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะเดินทางไปทำบุญกับเพื่อนทุกปี ซึ่งขณะนี้ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่ก็ขอให้พี่ตนปลอดภัย พี่ตนไม่เคยทะเลาะมีเรื่องกับใคร เป็นคนขยันทำมาหากิน พี่ตนมีอาชีพเปิดร้านขายปุ๋ย พันธุ์ข้าวเปลือก และอีกร้านก็เปิดร้านขายอาหารสัตว์ ภายในพี่น้อง 5 คน ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน รักกันดี

ตนได้ไปดูหมอดูหลายคน บางคนก็บอกว่าพี่ชายยังมีชีวิตอยู่ บางคนก็บอกว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเช็กจากกล้องวงจรปิดของตำรวจทางหลวงก็เห็นรถของพี่ชายยังขับอยู่ตามเส้นทางตั้งแต่วันที่ 17, 18, 19 เม.ย. แต่ไม่รู้ว่าพี่ชายขับอยู่หรือไม่ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามพี่ชายให้พบตัวโดยไว เพราะคนที่บ้านเป็นห่วง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ช่วยเหลือตนกับครอบครัวเป็นอย่างดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image