อ่าน ! รอง ผบก.สถาบันส่งเสริมงานสอบสวน โพสต์ คดีแตงโม เมื่อแม่ไม่เห็นด้วยตำรวจทำคดี ทำอย่างไร?

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Siriphon Kusonsinwut

รอง ผบก.สถาบันส่งเสริมงานสอบสวน โพสต์ให้ ‘แม่แตงโม’ พิจารณาข้อดีข้อเสีย กรณีไม่เห็นด้วยการดำเนินคดีตำรวจทำอย่างไร เปรยสมัยเป็น พงส. คดีป่วน เพราะทะแนะเยอะ

พ.ต.อ.ดร.ศิริพล กุศลศิลป์วุฒิ รองผู้บังคับการสถาบันส่งเสริมงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Siriphon Kusonsinwut ว่า คดีแตงโมสักนิด เพราะตอนนี้ใครก็พูดถึงกันผมจึงอยากขอมีเอี่ยวสักนิดครับ

1) การดำเนินคดีอาญา ระบบของไทยอนุญาตให้ผู้เสียหาย/ผู้มีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหายฟ้องคดีเองต่อศาลได้โดยตรงหรือจะกล่าวโทษ/ร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแทนก็ได้ ระบบหลังนี่จะเรียกว่าระบบดำเนินคดีอาญาโดยรัฐ

2) ในกรณีของแตงโม ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนตำรวจรวบรวมหลักฐานแล้วเสนอต่ออัยการพิจารณา ข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย (ไม่ใช่เจตนาฆ่าทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ มากมายและมีขาประจำเข้ามาวิจารณ์ตำรวจอย่างหนัก )

Advertisement

3) ต่อมาแม่ของผู้ตายจะฟ้องคดีอาญาเอง ซึ่งก็เป็นไป ตาม ป.วิ.อาญา ม.28 ซึ่งไม่ตัดสิทธิอัยการที่จะดำเนินคดีต่อไป (แต่อัยการอาจขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ ซึ่งโดยทั่วไปอัยการจะไม่ขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมเว้นแต่จะเป็นคดีสำคัญอย่างยิ่ง)

4) หากไม่มีการขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ผลที่ตามมาคือ อัยการและผู้จัดการแทนผู้เสียหายก็ต่างคนต่างดำเนินคดีอาญาในการกระทำกรรมเดียวกัน โดยในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องก็ดำเนินคดีไปโดยใช้สำนวนและหลักฐานของพนักงานสอบสวน ส่วนฝ่ายแม่คุณแตงโมก็ใช้หลักฐานของตน ที่จะต่างกัน คือ คดีแม่คุณแตงโมฟ้องจะต้องไต่สวนมูลฟ้องหากมีมูลศาลจึงประทับฟ้อง ในขณะที่อัยการฟ้องศาลก็ไม่จำเป็นต้องไต่สวนมูลฟ้อง

5) หากคดีใดพิจารณาเสร็จก่อน ก็ถือว่าคดีทุกคดีต้องยุติลง ตามหลักการที่ว่าจำเลยต้องได้รับความทุกข์ทรมานจากการดำเนินคดีอาญาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จะดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำหรือฟ้องซ้ำไม่ได้ ดังนั้น หากมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ฟ้องแล้ว ย่อมจะฟ้องอีกไม่ได้ คดีใครจะเสร็จก่อน?

Advertisement

6) คำถาม คือ ผู้เสียหายจะขอให้ศาลสั่งให้เอาหลักฐานในสำนวนการสอบสวนส่งมอบให้ผู้เสียหายที่ฟ้องเองได้หรือไม่ ผมเข้าใจว่าใน ป.วิ.อาญา กำหนดให้อำนาจศาลสามารถเรียกสำนวนคดีจากอัยการทั้งหมดได้แต่ต้องหลังจากสืบพยานเสร็จสิ้นแล้ว ศาลจึงเรียกสำนวนมาดูเพื่อความกระจ่างเท่านั้น ผมจึงเห็นว่าจะไม่มีการส่งมอบสำนวนของตำรวจให้ฝ่ายผู้เสียหาย

7) ผู้เสียหายใช้สิทธิขอให้ตำรวจเปิดเผยสำนวนหลักฐานได้หรือไม่ คำตอบ คือไม่ได้เพราะเมื่อมีการดำเนินคดี สำนวนหลักฐานจะเป็นความลับ เพราะหากเปิดเผยย่อมทำให้ทนายความของคู่ความอีกฝ่ายทราบแนวทางและหลักฐาน กระบวนพิจารณาย่อมเสื่อมเสีย ดังนั้น โดยหลักการตาม หลัก พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ฯ จึงรับรองว่าไม่ต้องเปิดเผย

8) ผู้เสียหายต้องแสวงหาพยานหลักฐานเอง ซึ่งค่อนข้างยาก และยังต้องไต่สวนมูลฟ้อง คดีน่าจะเดินได้ช้ามากพอสมควร ดังนั้น จึงต้องพิจารณาว่าการระดมแย่งกันมาฟ้องมีข้อดีหรือข้อเสียมากกว่ากัน ผมเห็นว่าเสียหายมากโดยเฉพาะค่าทนายความในการฟ้องศาล และเสียเวลาเพราะคดีต้องเข้าระบบรางหรือกำหนดก่อนหลังในการพิจารณาคดี โอกาสที่คดีอัยการจะเสร็จก่อนจึงมากกว่า

9) หากแม่แตงโมไม่เห็นด้วยกับการดำเนินคดีของตำรวจควรดำเนินการอย่างไร กรณีเคยมีคำพิพากษารองรับไว้ว่า อัยการสามารถนำหลักฐานที่ไม่ผ่านการสอบสวนเสนอต่อศาลได้ ดังนั้น การร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ อาจจะเป็นทางออกที่ดี ซึ่งอัยการอาจจะสั่งให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติม หรือกรณีคดีอยู่ชั้นพิจารณาแล้วอัยการก็อาจจะขอเสนอพยานหลักฐานนั่นต่อศาลให้พิจารณาได้เช่นกัน

10) แม่แตงโมขอศาลเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการ ได้ไหม ? ดีกว่าไปไต่สวนมูลฟ้องไหม? มีข้อจำกัดอะไรบ้างในการดำเนินกระบวนพิจารณา ถ้าในกรณีที่แม่แตงโมไม่เห็นด้วยกับตำรวจและอัยการ การเข้ามาร่วมกันคงเกิดไม่ได้ ??

เอาเป็นว่า ลองใจเย็นๆ แล้วพิจารณาดู คดีสมัยผมทำเป็นพนักงานสอบสวน ที่วุ่นวายก็เพราะมีทะแนะเยอะเกินไปนี่แหละครับ แม่แตงโมลองพิจารณาข้อดีข้อเสียต่างๆ แล้วจัดไปครับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image