หนุ่มเชื้อสายอินเดีย โร่แจ้งความ-ร้องสื่อ ถูกมาเฟียสัญชาติเดียวกันขู่อุ้มฆ่า เรียกค่าคุ้มครอง มีนามบัตรเป็นรองหน.พรรคการเมือง

หนุ่มเชื้อสายอินเดีย โร่แจ้งความ-ร้องสื่อ ถูกมาเฟียสัญชาติเดียวกันขู่อุ้มฆ่า เรียกค่าคุ้มครอง มีนามบัตรเป็นรองหัวหน้าพรรคการเมือง

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 27 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานที่สถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี พบนายวรยุทธ อนันต์ถวัลย์เลิศ อายุ 34 ปี ชาวไทยเชื้อสายอินเดีย เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ถิรพัฒน์ ศิริรักษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอกรณีถูกนายสิงห์เทพ กุกเรยา อายุ 70 ปี คนไทยเชื้อสายอินเดีย ที่มีชื่อปรากฏตามนามบัตรเป็นรองหัวหน้าพรรคถิ่นกาขาว กรุงเทพฯ พร้อมพวก โทรศัพท์และอัดคลิปวิดีโอมาข่มขู่จะให้ทหาร กอ.รมน.มาอุ้มไปทำร้าย และขู่ฆ่าทั้งครอบครัวถ้าหากไม่จ่ายเงินค่าคุ้มครองรายเดือน จำนวน 100,000 บาท นอกจากนี้ ยังลงคลิปวิดีโอตามสื่อโซเชียลทำให้ได้รับความเสียหายและเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความไว้แล้วเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา

นายวรยุทธกล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายสิงห์เทพได้ให้ชายอ้างตัวเป็นทหารโทรเข้ามาข่มขู่ ซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นทหารจริงหรือไม่ แต่มีเบอร์โทรที่ชัดเจน และมักจะใช้ระบบอิทธิพล สร้างคลิปวิดีโอเพื่อให้เสื่อมเสีย ซึ่งตอนนี้ได้ส่งคลิปมาข่มขู่ตน เมื่อขู่ไม่สำเร็จก็ให้บุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่โทรมาเรียกรับเงิน ถ้าตนไม่จ่ายจะส่งเจ้าหน้าที่ทหารมาอุ้มที่บ้าน และให้ตนไปขอโทษ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าต้องไปขอโทษเรื่องอะไร ตนจึงไปแจ้งความ หลังจากที่นายสิงห์เทพได้รับหมายเรียก เขาได้อัดคลิปวิดีโอว่าจะเล่นงานตนให้ถึงที่สุด ซึ่งเขามีเส้นสายเยอะมาก ทำให้ตนและครอบครัวไม่ได้รับความปลอดภัย

นอกจากนี้ ยังพยายามข่มขู่เรียกเงินหลักแสนบาทต่อเดือนตามคลิปวิดีโอที่ปรากฏโดยให้ตนจ่ายเงินเพื่อความปลอดภัยของตน ถ้าไม่ให้เขาจะทำให้เสื่อมเสีย นอกจากนี้ ยังอ้างว่าตนไปทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่ง ถ้าไม่ไปเจรจาก็จะส่งทหารมาอุ้มถึงบ้าน โดยตนก็ประกอบอาชีพธุรกิจ ซึ่งไม่เคยรู้จักคนที่มาข่มขู่แต่อย่างใด อยากขอความเป็นธรรม ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อให้ชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ในเมืองไทยได้รับความปลอดภัยและไม่ถูกข่มขู่กันได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการออกหมายเรียกบุคคลดังกล่าวเพื่อเข้าให้ปากคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบเข้าข่ายการกระทำความผิดตามที่ผู้ร้องแจ้งพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image