ตร.โชว์กึ๋น จับแล้ว โจรแสบ ฉายา ‘กกน.ตัวเดียว’ ก่อเหตุทั่วไทย ขโมยมือถือใหม่นับร้อยเครื่อง

สืบ ภาค 2 และ PCT 5 รวบคาร์มัส สุไหงโกลก ปิดเกมส์โจร กกน.ตัวเดียวก่อเหตุขโมยทั่วไทย

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.2 และ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 สืบสวนติดตามจับกุม คนร้ายลักทรัพย์ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” สาขานครนายก อ.เมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ได้ทรัพย์สินไปกว่า 128 รายการ มูลค่าความเสียหายกว่า 1,914,895 บาท โดยคนร้ายเลือกที่จะลักมือถือบางยี่ห้อ แต่จะเหลือทิ้งไว้เฉพาะเครื่องที่สามารถล็อกซิมได้ แสดงถึงความเชี่ยวชาญเรื่องโทรศัพท์

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่าหลังเกิดเหตุจึงนำกำลัง บก.สส.ภ.2 ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบว่าคนร้ายนิยมแต่งกายโดยถอดเสื้อผ้าจนเหลือเพียง “กางเกงในตัวเดียว” ก่อนลงมือกระทำความผิดจะมีการตัดสายกล้องวงจรปิดและถอดเซิฟเวอร์กล้องลักเอาไปด้วย และเส้นทางที่คนร้ายใช้เส้นทางก่อเหตุอย่างชำนาญเบี่ยงประเด็นให้เสมือน “เป็นคนพื้นที่” ซึ่งการสืบสวนพบว่าคนร้ายมาสำรวจที่เกิดเหตุไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนจะลงมือก่อเหตุ

ผบก.สส.ภ.2 กล่าวว่า พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวนฯ บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 ชุดปฏิบัติการที่ 5 ศปอส.ตร. (PCT 5) เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายทราบว่าคือ นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส อายุ 23 ปี ชาวจังหวัดนราธิวาส ซึ่งนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมจาก ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 ยังวิเคราะห์แผนประทุษกรรมคนร้ายคดีนี้มีความเหมือนกับ เคยก่อเหตุเมื่อ 27 ม.ค. ภายในร้าน BANANA สาขาจังหวัดยะลา เลขที่ 65 ถ.รวมมิตร ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา พื้นที่ สภ.เมืองยะลา

Advertisement

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ร้าน BANANA สาขาสายไหม 109 ซอย สายไหม 9 แขวง สายไหม เขตสายไหม กรุงเทพฯ พื้นที่ สน.สายไหม แต่งกายชุดก่อเหตุทั้งสามคดีเหมือนกันคือ สวมใส่กางเกงชั้นในตัวเดียวมีลักษณะ “ถอดแบบ” จากการตรวจสอบประวัติต้องโทษคดีของ นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส ก็พบว่าก่อเหตุมาไปทั่วกว่า 9 คดี 9 พื้นที่ (สภ.เมืองยะลา, สภ.หาดใหญ่, สภ.เมืองพัทลุง, สภ.เมืองนครศรีธรรมราช, สภ.เมืองหนองบัวลำภู, สภ.เมืองอุบลราชธานี, สภ.หัวหิน, สน.สายไหม) จนถูกเรียกว่า โจรกางเกงในตัวเดียว

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ต่อมาสืบสวนทราบว่า นายเจ๊ะอิสมะแอ หลบซ่อนตัวอยู่ห้องพัก Condolette ลาดพร้าว ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จึงนำกำลังเข้าจับกุมพร้อมด้วยของกลาง โทรศัพท์มือถือ จำนวน 31 เครื่อง ตรวจค้นพบห้องพัก อาคาร 624 Condolette ลาดพร้าว ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ จากนั้นนำตัวไปตรวจค้น ตรวจค้นพบห้องพัก เลขที่ 704 โรงแรมย่าน ซ.รามคำแหง 40 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ พบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 58 เครื่อง เมื่อวันที่ 4 ก.ค. โดยกล่าวว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือรับของโจร”

สอบสวนนายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส ให้การรับสารภาพ และยอมรับว่าเป็นลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” สาขานครนายกจริง ก่อนหลบหนีมาอยู่คอนโดและมาถูกจับกุม โดยโทรศัพท์ของกลางทั้ง 149 เครื่องที่พบก่อนถูกตรวจยึดเตรียมพร้อมหอบกลับไปยังภูมิลำเนา จ.นราธิวาส เป็นโทรศัพท์มือถือที่ก่อเหตุขโมยมาทั้งสิ้น 89 เครื่อง ในชั้นจับกุมเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ หรือรับของโจร” และเป็นบุคคลตามหมายจับ จำนวน 4 หมายจับดังนี้

– หมายจับศาลจังหวัดศาลจังหวัดยะลาที่ จ.54/2564 ลงวันที่ 4 ก.พ. 64 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้าหรือรับของโจร”

– หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.48/2565 ลงวันที่ 20 ม.ค. 65 ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป หรือรับของโจร”

– หมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจังหวัดสงขลาที่ 8/2564 ลงวันที่ 27 พ.ค. 64 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า”

– หมายจับศาลจังหวัดพัทลุงที่ 129/2564 ลงวันที่ 23 เม.ย. 64 ข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่จำนงให้เป็นทางคนเข้า”

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่านายเจ๊ะอิสมะแอ รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และให้การอ้างว่า “ที่ขโมยแต่ร้าน BANANA เพราะชอบกล้วยและชอบสีเหลืองจึงขโมยแต่ร้านนี้ และที่ชอบถอดเสื้อผ้าให้เหลือกางเกงในตัวเดียวแล้วเข้าไปขโมยของเพราะมันทำให้เกิดความรู้สึกมั่นใจ รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง และที่ขโมยกล้องวงจรปิดไปด้วยเพราะเมื่อปี 2564 ถูกตีข่าวว่าที่จังหวัดยะลาเป็นโจรกางเกงในโรคจิต รู้สึกไม่ชอบจึงขโมยกล้องไปด้วยทุกครั้งหลังจากคดีนั้นๆ โดยการหาร้านที่จะก่อเหตุจะค้น google map หาร้าน BANANA แบบสุ่มตัวอย่างแล้วจะไปละแวกนั้นก่อนก่อเหตุประมาณ 3 ชั่งโมงถึง 6 ชั่วโมง สำรวจเส้นทางรอบๆ แล้วค่อยก่อเหตุหลังเที่ยงคืน โดยที่มุ่งขโมยแต่โทรศัพท์เพราะฝังใจตอนเด็กๆที่เพื่อนมีโทรศัพท์แต่ตนเองไม่มี จึงเริ่มก่อเหตุโดยแรกๆ ก็ลักขโมยเล็กน้อยจนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ จนแทบกวาดหมดร้าน โดยเมื่อขโมยมาได้แล้วมักเอาบางส่วนไปขายและเอาเงินไปใช้ และจะนำโทรศัพท์บางส่วนไปแจกให้กับคนเร่ร่อนละแวกสนามหลวงและหัวลำโพงและบางส่วนก็จะนำไปแจกให้กับคนที่ภูมิลำเนาที่ จ.นราธิวาส โดยจะแจกทั้งเงินและโทรศัพท์ เนื่องจากตนเองเป็นคนไร้บ้านมาก่อนในลักษณะของจอมโจรโรบินฮูด แต่สื่อกลับตั้งฉายาว่าโจรกางเกงในโรคจิต”

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “เป็นผลงานของชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบภาค 2 และ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ตามแนวคิดของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.เพื่อกวาดล้างอาชญากรรมในรูปแบบต่างๆที่สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคม โดยได้ตรวจพบว่าคนร้ายในคดีนี้มีลายเซ็นอาชญากรมีรูปแบบที่แปลกกว่าคดีอื่นเป็นอย่างมาก ก่อเหตุจำนวนหลายครั้ง ถึงแม้ว่าคนร้ายจะไม่ใช้ชื่อตัวเองเพื่อสะดวกต่อการหลบหนี แต่ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมหลังก่อเหตุได้เพียง 1 วัน ผมจะขยายผลการจับกุมให้ถึงที่สุด รวมไปถึงกลุ่มผู้ที่รับซื้อของโจรเหล่านี้ด้วย ผมเชื่อว่าที่คนร้ายยังก่อเหตุอยู่เช่นนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะยังมีกลุ่มผู้รับซื้ออยู่ ผมจะทลายให้หมด”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image