สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ด.ต.ใช้ M4 ยิงใส่บ้านประชาชน

 

สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ด.ต.ใช้ M4 ยิงใส่บ้านประชาชน พร้อมตั้ง กก.สอบวินัยร้ายแรง

จากกรณีที่ ด.ต.มีชัย อายุ 38 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.ตชด 21 กองร้อย 216 อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ก่อเหตุใช้อาวุปืนคาร์บิน M4 ยิงใส่บ้านเรือนของชาวบ้าน ที่หมู่ 10 ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จนหมดแม็ก จนทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย กระสุนทะลุบ้าน ประตูได้รับความเสียหาย โชคดีวัยรุ่นอายุ 17 ปี ที่นอนอยู่ภายในบ้านปลอดภัยนั้น

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พล.ต.ต.พงษ์พิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ลงนามในคําสั่งกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ที่ 186/2565 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน ใจความว่า

ด้วย ดาบตำรวจมีชัย ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 หมายเลขตำแหน่ง 5203 12202 0743 รับเงินเดือนระดับ ป.3 ชั้น 28 เงินเดือน 28,880 บาท ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ในกรณีเข้าข่ายความผิดฐานพยายามฆ่า มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ยิงปืนในเมือง หมู่บ้านโดยใช่เหตุทำให้เสียทรัพย์ และมีเหตุให้ออกจากราชการไว้ก่อนตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 3(1) คือผู้นั้นถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน หรือต้องหาว่ากระทำความผิดอาญาหรือถูกฟ้อง คดีอาญาในเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความประพฤติ หรือพฤติการณ์ อันไม่น่าไว้วางใจ และผู้ที่ถูกฟ้องนั้น พนักงานอัยการมิได้รับเป็นทนายแก้ต่างให้ และผู้มีอำนาจดังกล่าวพิจารณา เห็นว่าถ้าให้ผู้นั้นคงอยู่ในหน้าที่ราชการอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการ และได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการสอบสวน พิจารณาคดีที่เป็นเหตุให้สั่งพักราชการนั้นจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว

Advertisement

ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 8 จึงให้ ด.ต.มีชัย ตำแหน่งผู้บังคับหมู่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาทางวินัย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

อนึ่ง ผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้ มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ ก.ตร.ได้ตามพระราชบัญญัติตำารวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 105 ภายใน 30 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่งและหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้ง คำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครอง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยัง ศาลปกครองภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์หรือภายใน 90 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์ หนังสือคำสั่งดังกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image