จากกรณีนายดอน แดงจันติ๊บ อายุ 34 ปี เสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ขณะเข้าจับกุมนักพนันไฮโล บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ชุมชนรุ่งเรืองตอนปลาย ซอย 2 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย ซอยรุ่งเรือง แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 พฤศจิกายน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รรท.ผบก.น.2 ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตำรวจที่ร่วมทำการจับกุมดังกล่าว คดีนี้เชิญแพทย์นิติเวช อัยการ มาร่วมชันสูตรพลิกศพ เพราะเป็นการตายระหว่างการจับกุมของเจ้าพนักงาน ทั้งนี้หากแพทย์ลงความเห็นสาเหตุการตายว่าถูกทำให้ตาย ต้องดำเนินคดีกับผู้จับกุม แต่ถ้าเกิดจากหัวใจล้มเหลว ถือว่าตายเอง ส่วนที่มีรอยฟกช้ำตามร่างกาย ไม่น่าจะทำให้ตายได้ ทั้งนี้เวลาคนวิ่งหรือไล่จับกุมกันแล้วผู้ต้องหาตัวใหญ่ ต้องช่วยกันจับหลายคน ไม่ได้ปกป้องตำรวจ ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตามยืนยันต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่เบื้องต้นไม่พบว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว หรือโรคหัวใจ ส่วนผลการชันสูตรสาเหตุการตายคาดว่าจะออกภายในช่วงเย็นวันนี้
“ขณะนี้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคดีดังกล่าวแล้ว แบ่งเป็นคดีอาญาและคดีทางวินัย ในส่วนของการประพฤติผิดหลักหรือเกินกว่าเหตุหรือไม่ มี พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติรองรับอยู่ ส่วนคดีอาญาขอให้ญาติวางใจว่าตำรวจไม่สามารถทำผิดกฎหมายได้ ทั้งนี้อยู่ระหว่างการรอผลชันสูตรพลิกศพ เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัวของเจ้าพนักงาน จากนั้นจะต้องให้พนักงานอัยการร่วมทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ ก่อนส่งสำนวนให้ศาลไต่สวนต่อไป หากหลักฐานและพยานยืนยันได้ว่า ใครเป็นผู้ทำให้เสียชีวิต จะต้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน”ผบช.น.กล่าว
พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกระแสข่าวที่ว่าผู้เสียชีวิต เกิดอาการช็อกก่อนเสียชีวิต หากเป็นความจริงสาเหตุการเสียชีวิตจะไม่ได้มาจากการถูกทำร้ายโดยตรง บาดแผลที่ปรากฏหากไม่ทำให้ถึงแก่ความตายจะเป็นเพียงข้อหาทำร้ายผู้อื่น โดยเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นความไม่เจตนา ขอให้รอความเห็นจากแพทย์ก่อน
ด้าน พ.ต.อ.ภาณุมาศ เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดและยังไม่ทราบว่าตำรวจผู้ก่อเหตุเป็นใคร อย่างไรก็ตามสั่งการให้ พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รอง ผบก.น.2 เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว คาดว่าคงใช้เวลาไม่นานน่าจะทราบผล หากผลตรวจสอบข้อเท็จจริงออกมา จะสามารถดำเนินการขั้นตอนต่อไปได้
