พ่อค้าสับปะรดเมืองขอนแก่น วอนครูเกษียณอายุรับผิดชอบ หลังกลับรถกะทันหันในที่ห้าม ทำเจ็บสาหัสแขนขาหัก

พ่อค้าสับปะรดเมืองขอนแก่น วอนครูเกษียณอายุรับผิดชอบ หลังกลับรถกะทันหันในที่ห้าม ทำเจ็บสาหัสแขนขาหัก หมดค่ารักษากว่า 1.4 แสนบาท ผ่านมา 4 เดือน ไร้วี่แววรับผิดชอบ พยายามยัดข้อหาประมาทร่วม

วันที่ 26 สิงหาคม 2565 นายสมชาติ ยวนนา อายุ 42 ปี ชาวบ้านดอนหัน ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นเหตุการณ์ที่รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ทะเบียน ขล 4839 ขอนแก่น ที่มีชายวัย 62 ปี ข้าราชการครูเกษียณ เป็นคนขับ จอดรถอยู่ริมถนนฝั่งซ้ายสุด ซึ่งขณะนั้นมีรถวิ่งสัญจรไปมา สักพักรถเก๋งสีแดงก็หักพวงมาลัยเลี้ยวขวาออกจากริมถนนกะทันหันเพื่อกลับรถโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ทำให้นายสุชาติ ที่กำลังขับขี่รถจักรยานยนต์มาทางตรงเบรกไม่ทัน ชนเข้ากับรถเก๋งสีแดงอย่างแรง จนนายสุชาติกระเด็นไปอีกเลน ส่งผลทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้นขาซ้ายหัก แขนขวาหัก เหตุเกิดที่บริเวณหน้าร้านยาง ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 1 พ.ค.65 เวลาประมาณ 14.30 น. โดยนายสุชาติได้นำมาร้องกับสื่อมวลชนหลังไม่ได้รับความเป็นธรรม คดีล่าช้ามากว่า 4 เดือนยังไม่รับค่าเยียวยาจากคู่กรณี

นายสมชาติ ยวนนา ผู้เสียหาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองและแฟน มีอาชีพส่งสับปะรดขาย โดยจะขายอยู่ที่บริเวณถนนกสิกรทุ่งสร้าง และอยู่ไม่ห่างจากจุดที่โดนชน ซึ่งในวันเกิดเหตุเป็นวันที่ 1 พ.ค.65 เวลาประมาณ 14.30 น. ตอนนั้นตนเองได้ยืมรถจักรยานยนต์ของญาติ จะไปส่งสับปะรดให้แฟนที่ขายอยู่ที่ร้าน โดยได้ขับไม่มาเกิน 60 กม./ชม. เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ก็เห็นรถยนต์ของคู่กรณีเลี้ยวออกมาจากริมทางบริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวปลาทะเล ถนนกสิกรทุ่งสร้าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น อย่างกะทันหันโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว ทำให้ตนเองเบรกไม่ทัน พุ่งชนรถยนต์คู่กรณีอย่างแรง ได้รับบาดเจ็บ ต้นขาซ้ายหัก แขนขวาหัก จากนั้นก็ถูกนำส่งโรงพยาบาล โดยแพทย์ได้ทำการผ่าตัดแขนและขาที่หักด้วยการดามเหล็ก ตลอดระยะเวลาที่ตนเองรักษาอยู่โรงพยาบาล 10 วัน เสียค่ารักษาพยาบาล 148,367 บาท ซึ่งตนเองได้รับมาจาก พ.ร.บ.รถจักรยานยนต์ของตนเองที่เบิกจ่ายให้ เพราะถ้าจะให้จ่ายเองตนเองก็คงจ่ายไม่ไหว ส่วนคู่กรณีไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ ไม่เคยมาเยี่ยมสักครั้งตั้งแต่เกิดเรื่อง แม้แต่นมสักกล่องก็ไม่เคยได้จากคู่กรณี

นายสมชาติยังบอกอีกว่า หลังจากออกจากโรงพยาบาลได้เดือนกว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกคู่กรณีมาไกล่เกลี่ย แต่คู่กรณีก็ไม่มา ส่งเพียงทนายความมาแทน โดยตนเองได้เรียกร้องค่าเสียหาย ทั้งหมดเป็นเงิน 350,000 บาท โดยแบ่งเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยการทำงาน และค่าซ่อมรถจักรยานยนต์ที่ตนเองต้องซ่อมคืนให้ทางญาติ แต่ทางญาติอยากได้คันใหม่ เพราะรถมีสภาพที่พังเสียหายมาก จนไม่สามารถใช้งานได้อีก แต่ทางทนายคู่กรณีอ้างว่าจ่ายให้ได้เพียง 20,000 บาท เป็นค่าซ่อมรถ 5,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 15,000 บาท และให้ตนเองจ่ายค่าซ่อมรถยนต์ให้คู่กรณีด้วย จำนวน 45,000 บาท และจะให้ตนเองเซ็นยินยอมว่าประมาทร่วมกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนเองไม่สามารถทำได้ จึงได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้คู่กรณีออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง ไม่ใช่เงียบหายไป เพราะที่ผ่านมา 4 เดือนแล้ว เงินสักบาทก็ยังไม่ได้รับจากคู่กรณี ต้องไปหากู้หนี้ยืมสินมา เพื่อนำมาเป็นค่าเดินทางไปโรงพยาบาล ไปติดต่อคดี ส่วนแฟนบางวันก็ได้ขายสับปะรดบ้าง ไม่ได้ขายบ้าง เพราะต้องมาคอยดูแลตนเองที่ลุกนั่งก็ยังไม่ได้

ด้านนายวุฒิพงศ์ นามจันดี อายุ 28 ปี หลานชาย กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนอยู่ในเหตุการณ์ ขณะเกิดอุบัติเหตุคู่กรณีไม่ได้ลงมาดูแลหรือสอบถามน้าชายที่นอนเจ็บแขนขาหักเลย แถมยังพยายามให้ร้อยเวรที่เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ ให้นำคนเจ็บไปตรวจแอลกอฮอล์ทั้งที่นอนเจ็บสาหัส ยืนยันน้าชายไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์แน่นอน เพราะกำลังนำผลไม้ไปขาย สังเกตดูจากกล้องวงจรปิดได้ จะคนเมาหรือไม่เมาก็ชน ถ้าขับกลับรถกะทันหันแบบนี้ และคู่กรณียังแอบอ้างรู้จักคนใหญ่คนโต พยายามยัดเยียดข้อหาให้ทางฝ่ายน้าชายเป็นคนผิด และเป็นการประมาทร่วมด้วย จึงอยากขอความเป็นธรรมให้กับน้าชาย

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image