ภูเก็ตเอาจริง! รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หาดเลพัง 178 ไร่ อธิบดีดีเอสไอสังเกตการณ์ ให้กำลังใจ
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2565 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, ผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และหน่วยงานภาครัฐ ในจังหวัดภูเก็ตพร้อมกำลังคน อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรกล เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน 178 ไร่ หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 หาดเลพัง ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
นายปวีณ กุมาร ผู้อำนวยการ สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 สำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต ได้ปิดประกาศให้ผู้ที่ทำการปลูกสร้างในที่ดินของรัฐจำนวน 4 จุด ในที่ดินดังกล่าว ซึ่งศาลจังหวัดภูเก็ต ได้มีหมายบังคับคดีให้โจทก์และบริวารขนย้ายทรัพย์สินและรื้อถอนออกจากที่ดินของรัฐ และสำนักงานบังคับคดีจังหวัดภูเก็ตกำหนดให้รื้อถอนภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 เมื่อคดีสิ้นสุดต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
“หลังจากปิดประกาศเมื่อ 12 ก.ย.65 ให้เวลาขนย้ายของภายใน 15 วัน ในประกาศระบุว่าลงพื้นที่วันที่ 30 ก.ย.65 จึงมาตามสัญญา จะมารื้อถอน ซึ่งตรงนี้มีคดึเกี่ยวพันหลายคดีในส่วนของสำนักงานบังคับคดี มี 4 ส่วน คดีนี้โจทก์ มี 6 คน ที่ฟ้องและศาลพิพากษาให้ทั้ง 6 คนแพ้
การรื้อถอนใน 4 ส่วน วันนี้จะดำเนินการรื้อถอนให้หมด และต้องไม่มีคนอยู่แล้วถ้านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปใครอยู่ในพื้นที่ 178 ไร่นี้ ถูกแจ้งข้อหาบุกรุกทั้งหมด รวมถึงระหว่างนี้ถ้าตำรวจเจอคนอยู่ในพื้นที่สามารถเข้าจับกุมข้อหาบุกรุกทั้งหมดเช่นกัน นับตั้งแต่ 30 ก.ย.นี้จะไม่มีคนอยู่บนพื้นที่ 178 ไร่อีกต่อไป จะแบ่งงานเป็นสองส่วน ส่วนที่หนึ่งคือศาลมีคำพิพากษาแล้วส่วนนี้วันนี้จะรื้อถอนให้แล้วเสร็จอีกส่วนที่ศาลไม่ได้พิพากษาถึงวันนี้จะเอาคนออกจากพื้นที่ให้หมดส่วนสิ่งปลูกสร้างที่ยังคาอยู่ ทาง อบต.เชิงทะเลต้องแจ้งให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่รื้อถอนตามกำหนดเวลาหากไม่รื้อถอน ทาง อบต.เชิงทะเล จะลงมารื้อถอนเองเป็นคนละกฎหมายกัน และ เมื่อมาวันนี้ เจออีก 2 คดีที่เคยปิดประกาศขับไล่ไว้แล้ว บัดนี้พ้น 15 วันแล้วยังมีอยู่จะรื้อด้วยในคราวเดียวกัน การทำงานในวันนี้รวม 22 หน่วยงานจะทำให้สำเร็จให้ได้
เน้นรื้อให้หมดต้องไม่มีคนเหลืออยู่” นายปวีณกล่าว
ด้าน นายไตรยฤทธิ์ เตมหิ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI กล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ บูรณาการร่วมกับจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ 178 ไร่ โดยมีบางแปลงที่มีคำสั่งศาลเรียบร้อยแล้วให้บังคับคดีเข้ารื้อถอน การดำเนินการร่วมกับสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้ส่งผู้แทนมาเข้าร่วมกัน
“ผู้มีอำนาจรื้อถอนเข้าทำการรื้อถอน ส่วนตนเข้ามาในฐานะสังเกตการณ์ให้กำลังใจความเข้มแข็งความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ช่วยทวงคืนทรัพยากร ธรรมชาติ อันมีค่ายิ่ง ถ้าเฉลี่ยตารางวาละ 1 ล้านบาทถ้าราคาซื้อขาย 178 ไร่ ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ต้องกลับเป็นสมบัติของประเทศชาติส่วนรวม มิใช่ของผู้ใดผู้หนึ่งที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และในพื้นที่ 178 ไร่ DSI รับเป็นคดีพิเศษหมดแล้วแต่มีบางแปลงมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินการถึงที่สิ้นสุดแต่แปลงใดที่มีเบาะแสหรือมีข้อมูลมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมใน 178 ไร่นี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต้องดำเนินการอย่างจริงจังจะเข้าตรวจสอบดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิด
จากสังเกตการณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ มีรถแบ๊กโฮมารื้อถอนอาคารดูแล้วมีการลงคอนกรีตแน่นหนา ไม่มีการลงเสาเข็มทำให้การรื้อถอนง่ายมาก คิดว่าอีกประมาณ 1 เดือนในที่ดินนี้จะมีการฝังกลบคอนกรีตลงดินให้มีความลึกและตรงนี้จะเป็นหาดทรายสวยสะอาด
ถ้าที่ดินมีการให้ออกนสล.หนังสือสำคัญที่หลวงเป็นที่ประชาชนเข้าใช้ได้ ทางท้องถิ่นจัดระเบียบให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันเพื่อชุมชนเพื่อสังคมของเรา เชื่อว่า การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังบูรณาการที่ดีและเข้มแข็งของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่น่าจะมีใครกล้าเข้ามาบุกรุกในที่แห่งนี้ หากมีก็ดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังเข้มแข็ง” นายไตรยฤทธิ์ กล่าว
นายบัญชา ธนูอินทร์ นายอำเภอถลาง กล่าวว่า อำเภอถลางร่วมกับที่ดินจังหวัดและที่ดินอำเภอ เจ้าพนักงานบังคับคดี เป็นผู้รับมอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตให้มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งได้ทำการปิดหมายบังคับคดีเมื่อ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา และวันนี้ครบเวลากำหนดไว้ผู้ที่ครอบครองต้องรื้อให้หมดยังมีบางส่วนยังไม่ได้รื้อ
วันนี้เจ้าหน้าที่ เข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ยังเหลืออยู่โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน อาทิ อบจ.ภูเก็ตส่งกำลังและเครื่องจักร เข้ารื้อถอน , อบต.เชิงทะเล จ้างผู้รับเหมาเข้ารื้อถอน มีหน่วยตำรวจ ทหาร กองทัพภาคที่ 4 ทหารเรือ อส. และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรปภ.ประจำหมู่บ้าน รวม 22 หน่วยงาน
การเข้ารื้อถอน ตามคำพิพากษาของศาลมี 4 จุดที่ทำการรื้อถอน มีอาคารหลายหลัง และทั้งหมดที่บุกรุกทั้งแปลงแยกเป็นส่วนที่มีหมายบังคับคดีดำเนินการตามหมาย ในส่วนอื่นๆทางอบต.เชิงทะเลได้แจ้งความดำเนินคดีหมดแล้วและดำเนินการให้เป็นไปตามผลคดีถ้าผู้เข้ามาภายหลังอาจมีความผิดการบุกรุกพ.ร.บ.ป่าไม้
หลังจากนี้จะประชุมหารือแนวทางปฏิบัติในการดูแลพื้นที่ การจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแลและให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ ออกหนังสือสำคัญที่หลวงให้ประชาชนทุกคนใช้ร่วมกันได้ ” นายบัญชา กล่าว
ด้าน นายวิสิทธิ์ โชคชัย เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การดำเนินการออกหนังสือสำคัญที่หลวง ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการสงวนหวงห้ามที่จะยื่นคำขอออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงทั้งหมด178ไร่แสดงหลักฐานขอบเขตที่ดิน ถ้าออก หนังสือสำคัญที่หลวง หรือ นสล.จะเป็นตามกฎกระทรวงที่ 45 ตามพ.ร.บ.ประมวลกฎหมายที่ดิน” นายวิสิทธิ์ กล่าว
ด้าน นายมาโนช พันธ์ฉลาด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตมีนโยบายให้ที่ดินแห่งนี้เป็นทรัพย์สมบัติแผ่นดินแท้จริง ในฐานะดูแลที่ดินร่วมกับอำเภอถลาง จะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลที่ดินตรงนี้ฟื้นสภาพให้เร็วที่สุด
“อบต.เชิงทะเลมีงบประมาณ 90 ล้านบาท ปรับปรุงพื้นที่ จะมีการปลูกต้นไม้ให้สวยงาม กลับคืนสภาพพื้นที่ให้เร็วที่สุดปลูกต้นไม้ มีลานออกกำลังกาย ลู่วิ่งต่างๆ จะปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะสวนสุขภาพสำหรับประชาชน จะป้องกันพื้นที่ชายทะเลให้มากที่สุด และต้องรีบเร่งขึ้นทะเบียน นสล.หนังสือสำคัญที่หลวงจะเป็นการเสร็จสิ้นกระบวนการขึ้นทะเบียนที่ดินจะเป็นที่ของรัฐโดยสมบูรณ์แบบอย่างที่สุด และทางจังหวัดจะประสานงบส่วนกลางกับกรมโยธาธิการในการปรับภูมิทัศน์ ในการเคลียร์พื้นที่ทั้งหมดตั้งเป้า 10 วันถึงครึ่งเดือนนี้ จะทำให้เร็วที่สุด” นายมาโนชกล่าว