พ่อเด็ก 15 ขับบีเอ็มชนหนุ่มวิศวะ เผยเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย วอนโซเชียลเห็นใจ ไม่อยากให้เกิดขึ้น(คลิป)

พ่อเด็ก 15 ขับบีเอ็มชนหนุ่มวิศวะ เผยเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย วอนโซเชียลเห็นใจ ไม่อยากให้เกิดขึ้น

วันที่ 5 ต.ค. 65 กรณีเยาวชนชายวัยรุ่น อายุ 15 ปี ขับรถ BMW มากับเพื่อนวัยรุ่นด้วยกันรวม 3 คน แล้วฝ่าไฟแดงไปพุ่งชน นายธนพล แก้วมูล หรือเต้ อายุ 24 ปี ชาว อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ หนุ่มวิศวกร จนเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 30 กันยายน 2565 ท้องที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โลกออนไลน์ออกมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เห็นใจผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะครอบครัวที่ต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป เนื่องจากเพิ่งได้ทำงานส่งเงินไปให้ครอบครัวเดือนละ 15,000 บาทได้ไม่นาน แล้วหันไปรุมประณาม และขุดคุ้ยครอบครัวของวัยรุ่นคนขับรถหลากหลายความคิดเห็น

ล่าสุดนายเทิดพงษ์ กมลปัญญากร อายุ 48 ปี ชาว อ.เมือง จังหวัดบุรีรัมย์ พ่อของเยาวชน ที่ขับรถชนน้องวิศวะ ได้ออกมาเปิดเรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่า

หลังได้รับแจ้งว่าลูกชายขับรถชนคนตาย รู้สึกตกใจมาก ในคืนนั้นได้พาลูกชายไปพบพนักงานสอบสวนทันที ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นัดมาในวันรุ่งขึ้น ก็ไปตามนัดรับทราบข้อกล่าวหา

Advertisement

พนักงานสอบสวน ยังบอกให้ตนรอพบกับพ่อของผู้เสียชีวิตซึ่งกำลังเดินทางมา ตนก็รอจนกระทั่งพบกัน จึงพาลูกชายและเพื่อนไปกราบขอขมา โดยในวันเดียวกันตนได้ถามเรื่องค่าจัดงานศพ ได้รับคำตอบว่า

แถวนั้นถ้าจัดงานศพจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 180,000 แต่ไม่เกิน 200,000 บาท จึงหาเงินมาเตรียมไว้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แนะนำให้มาจ่ายและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพนักงานสอบสวน

แต่ติดปัญหาเพราะทางฝั่งครอบครัวผู้เสียชีวิต ต้องรีบนำศพกลับไปที่บ้านเกิดจังหวัดนครสวรรค์ จึงเกิดการล่าช้า ไม่ได้จะมีการหลบเลี่ยงแต่อย่างใด ครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าใจดี

Advertisement

วันฌาปนกิจ ตนตั้งใจจะไปร่วมงานพร้อมนำเงินจำนวน 250,000 บาท ให้เป็นค่าทำศพที่หน้างาน โดยขับรถจากบุรีรัมย์ ไปนครสวรรค์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประสานผู้ใหญ่บ้านที่หมู่บ้านที่ตั้งศพของน้องเอาไว้แล้ว

เมื่อไปถึงได้ประสานกับผู้ใหญ่บ้านให้ไปติดต่อญาติในงานศพ เวลาต่อมาผู้ใหญ่บ้านกลับออกมาแล้วสรุปให้ฟังว่า “ไม่สมควรเข้าไป” เพราะญาติผู้เสียชีวิตยังไม่ตอบรับ เกรงว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้น จึงตัดสินใจขับรถกลับบุรีรัมย์

นายเทิดพงษ์ยังกล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนขอกราบขอโทษและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียหาย ขอโทษคนทั้งประเทศที่บางครั้งอาจจะเข้าใจผิดไปบ้าง แต่ส่วนหนึ่งตอนนี้ครอบครัวของตัวเอง โดนโลกโซเชียลรุมประณามทั่วประเทศ รวมถึงลูกชายซึ่งตอนนี้ปิดห้องเงียบ

หลังจากนี้ยังจะพยายามประสานเรื่องเยียวยาเรื่องเงินค่าทำศพต่อไปอีกผ่านพนักงานสอบสวน ส่วนเรื่องการเยียวยาความสูญเสีย ต้องยอมรับว่าตีเป็นมูลค่าไม่ได้ เพราะไม่สามารถเอาชีวิตกลับคืนมาได้ แต่ตนก็จะรับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งจะต้องให้กระบวนการยุติธรรมเป็นคนตัดสิน

กรณีโลกโซเชียล ถามถึงความเป็นมาของการขับรถของลูกชายว่า รถคันดังกล่าวตนซื้อมาเอง เพราะมีอาชีพซื้อมาขายไปทีละคัน วันเกิดเหตุ ลูกชายซึ่งอยู่กับปู่ ย่า ที่ จ.นครราชสีมา ได้ขับไปโดยไม่ได้แจ้งปู่กับย่า แล้วไปเกิดเหตุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image