เก๋งซิ่งฝ่าไฟแดง ชนกลางตลาดแม่กลอง สาหัส 3 ราย ก่อนขับหลบหนี ตำรวจแกะรอยวงจรปิดจนเจอ

เก๋งฝ่าไฟแดง ชนกลางตลาดแม่กลอง สาหัส 3 ราย ก่อนขับรถหลบหนี ตำรวจแกะรอยจากวงจรปิดจนเจอ

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ซ สีบรอนซ์ ทะเบียน ฏช 6652 กรุงเทพมหานคร (ทราบภายหลัง) ขับฝ่าไฟแดงสี่แยกเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ใจกลางตลาดแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม แล้วเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อแลมเบรตต้า สี ดำ ทะเบียน 5 ชด 5283 กรุงเทพมหานคร จนคนขี่รถจักรยานยนต์และผู้ที่นั่งซ้อนท้ายรวม 3 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าสมุทรสงคราม 1 คน คือ นายณภัทร สุรพันธ์ อายุ 19 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนนายหัสฎา บุญพิทักษ์ อายุ 20 ปี ผ่าตัดขาและแพทย์อนุญาตให้ไปพักฟื้นที่บ้าน ขณะที่ น.ส.ศิริพร ชมพูพื้น อายุ 21 ปี ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตากสิน กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 20 พ.ย.65 เวลาประมาณ 00.20 น.

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ทราบว่าผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับมาตามถนนเอกชัย จะผ่านแยกเทศบาลเมือง มุ่งหน้าเข้าตลาดแม่กลอง เป็นจังหวะไฟเขียว ขณะเดียวกันได้มีรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดงออกมาชนรถจักรยานยนต์อย่างแรงจนล้มคว่ำ ทำให้ทั้งคนขี่รถจักรยานยนต์และผู้ที่นั่งซ้อนท้ายรวม 3 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนรถเก๋งคนขับได้เร่งเครื่องหลบหนีไปตามถนนทางเลี่ยงเมือง
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผกก สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.เอนก ขจีจิตร สารวัตรสืบสวน ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด

กระทั่งเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ซ สีบรอนซ์ ทะเบียน ฎช 6652 กรุงเทพมหานคร มีร่องรอยการเฉี่ยวชนได้รับความเสียหายบริเวณด้านหน้าข้างซ้าย ไฟหน้าด้านซ้ายแตก จอดอยู่ภายในร้านขายวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง ใน ต.กระดังงา อ.บางคนที ตรวจสอบเจ้าของ ชื่อ นายสุเชษฐ์ ติดญาติ อายุ 29 ปี ชาว ต.หัวสะพาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นคนขับรถส่งของร้านดังกล่าว โดยนายเฉลิมพล นัทนาวุฒิ อายุ 56 ปี เจ้าของร้าน ซึ่งเป็นนายจ้างได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายสุเชษฐ์ เบื้องต้นนายสุเชษฐ์ รับว่าขับรถยนต์คันดังกล่าวชนกับผู้เสียหายจริง แต่ตกใจจึงขับหนีออกมา ต่อมาวกกลับไปที่เกิดเหตุแต่ไม่เจอใคร จึงขับรถคันก่อเหตุไปจอดในร้านขายวัสดุก่อสร้าง และหยุดงานกลับไปบ้านพักเพื่อทำใจ เพราะตกใจและกลัวความผิด อย่างไรก็ตาม เร็วๆ นี้จะเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ต่อไป

นายเฉลิมพล เจ้าของร้านกล่าวว่า นายสุเชษฐ์เป็นคนงานของตน มีหน้าที่ขับรถส่งของ อัธยาศัยดี แต่หยุดงานบ่อย คาดว่าจะชอบสังสรรค์ จึงทำให้มาทำงานไม่ไหว ล่าสุดได้ขอหยุดงานไปหลายวันแล้ว ซึ่งตนเพิ่งมาทราบเรื่องว่าลูกน้องของตนชนแล้วหนีในวันนี้

Advertisement

ต่อมาเมื่อเวลา 17.20 น. ที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม เดินทางมาติดตามคดี และนำตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสมุทรสงคราม มาเก็บร่องรอยพยานวัตถุต่างๆ จากรถยนต์คันก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ที่ถูกชน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ

นายอภินันท์ สุวรรณรัตน์ อายุ 39 ปี ชาว ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พี่ชายนายนภัทร ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า น้องชายของตนเรียนชั้น ปริญญาตรี ปี 1 วิทยาลัยนาฏศิลป สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จ.นครปฐม ก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มากับ น.ส.ศิริพร แฟนสาว เพื่อมาส่ง นายหัสฎา เพื่อนสนิทที่ตลาดแม่กลอง กระทั่งประสบอุบัติเหตุ ทำให้นายนภัทร น้องชายของตน ขาหัก ส่วนแฟนสาวของน้องชาย แขนซ้ายหัก มีบาดแผลรอยช้ำที่ใบหน้า กระดูกช่องท้องหักหลายซี่ เพื่อนก็ขาหักเช่นกัน

โดยผู้ก่อเหตุไม่ได้จอดรถมาให้ความช่วยเหลือ หรือมารับผิดชอบแต่อย่างใด ชนแล้วหนีไปเลย และยังนำรถไปจอดซ่อนกระทั่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามเจอเอง อยากให้ผู้ก่อเหตุมารับผิดชอบจากใจทางครอบครัวเราก็แย่ ได้รับความเดือดร้อน ต้องเสียเวลาเรียน และต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล สภาพจิตใจแย่มาก แต่ยังไม่ได้ยินคำขอโทษจากคู่กรณี หรือจากญาติของผู้กระทำผิดแต่อย่างใด จึงขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจแทน ผู้บาดเจ็บ ญาติพี่น้อง ทุกคน ที่ติดตามคนก่อเหตุมาลงโทษในครั้งนี้

Advertisement

พล.ต.ต.สุเมธกล่าวว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 20 พ.ย.65 เวลาประมาณ 00.20 น. ซึ่งแม้ว่าจุดเกิดเหตุจะมีกล้องวงจรปิดสมาร์ทเซฟตี้โซนรวม 4 ตัว แต่เนื่องจากเหตุเกิดกลางดึก คุณภาพกล้องไม่ชัดเจนไม่สามารถจับภาพทะเบียนรถได้ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว แกะรอยโดยใช้กล้องศูนย์ปฏิบัติการ CCTV ที่ร่วมมือกระหว่างกระทรวงมหาดไทย, บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ และตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งครอบคลุมทั้งจังหวัดกว่า 500 ตัว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามถนนสายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งกลางวันและกลางคืน จนทราบว่าเส้นทางเดินทางของรถคันก่อเหตุ จอดอยู่ภายในลานขายวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.กระดังงา อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม จึงตรวจยึดรถและจะติดตามคนขับรถคันก่อเหตุมาดำเนินคดีอย่างเต็มที่เนื่องจากให้โอกาสแล้วแต่ยังหลบหนี เบื้องต้นแจ้งข้อหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส, ไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ และไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image