ปลัด มท. ลงนาม MOU 5 หน่วยงาน ป้องทำความผิดซ้ำคดีทางเพศ-ความรุนแรง

ปลัด มท. ลงนาม MOU 5 หน่วยงาน ป้องทำความผิดซ้ำคดีทางเพศ-ความรุนแรง พร้อมขับเคลื่อนภารกิจตามกฎหมายควบคู่การเสริมสร้าง “กำลังใจ” เพื่อให้ผู้คิดจะทำผิดซ้ำได้รู้สึกมีคุณค่า สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนในสังคมอย่างเป็นปกติสุข

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม ที่ห้องสนฉัตร ชั้น 3 อาคารกระทรวงยุติธรรม ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายธีรศักดิ์ เงยวิจิตร เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายอำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ รองอัยการสูงสุด นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และพลตำรวจโท วีระ จิรวีระ รองจเรตำรวจแห่งชาติ

ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการความร่วมมือเพื่อป้องกันการกระทำความผิดซ้ำจากผู้กระทำความผิดคดีทางเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง ระหว่างกระทรวงมหาดไทย สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงยุติธรรม โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานสักขีพยาน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  กล่าวว่า ที่มาของพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 หรือเรียกโดยย่อว่า กฎหมาย JSOC : Justice Safety Observation ad hoc Center สืบเนื่องมาจากสาเหตุสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นทุกปี มักมีพฤติกรรมก่อเหตุซ้ำ จึงได้ขับเคลื่อนยกร่างกฎหมายกระทั่งถูกตราเป็นพระราชบัญญัติขึ้น เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมโดยเฉพาะสตรี และเพื่อป้องกันอันตรายจากการก่อเหตุซ้ำซาก

โดยสาระสำคัญของกฎหมาย JSOC จะใช้กับผู้กระทำผิด 3 กลุ่ม คือ 1.ความผิดทางเพศ 2.ความผิดเกี่ยวกับชีวิตร่างกาย และ 3.ความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ/เรียกค่าไถ่ มีสาระสำคัญ คือ แก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด และเฝ้าระวังภัยหลังพ้นโทษโดยใส่กำไล EM มากที่สุด 10 ปี และหากพบการกระทำผิด ตำรวจและฝ่ายปกครองสามารถเข้าควบคุมตัวทันทีภายใน 48 ชั่วโมง และเจ้าหน้าที่คุมประพฤติสามารถขอควบคุมฉุกเฉินเพิ่มอีกไม่เกิน 7 วัน และขออำนาจศาลเปลี่ยนมาตรการจากเฝ้าระวังเป็นคุมขังไม่เกิน 3 ปี โดยกฎหมายฉบับนี้จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 23 มกราคม 2566 นี้

Advertisement

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่ได้ให้ความสำคัญและผลักดันกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง อันเป็นเรื่องที่ดีและมีประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในด้านความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้น

ขณะเดียวกันยังเป็นเครื่องมือช่วยทำให้ผู้ที่คิดจะกระทำความผิดซ้ำได้มีเครื่องเตือนใจให้ยับยั้งชั่งใจไม่ให้กระทำผิดซ้ำ รวมทั้งทำให้คนในสังคมได้มีโอกาสช่วยกันดูแลผู้ที่มีโอกาสกระทำความผิดให้เป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัวและสังคม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวว่า ภารกิจของกระทรวงมหาดไทยตามกฎหมายฉบับนี้สอดคล้องกับภารกิจหน้าที่ของพวกเราชาวมหาดไทยซึ่งมีหน้าที่ต้อง “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับพี่น้องประชาชน โดยชาวมหาดไทยและภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่ทั้ง 878 อำเภอใน 76 จังหวัด อันประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องอาสาสมัครต่าง ๆ มีความยินดีและเต็มใจในการขับเคลื่อนภารกิจตามกฎหมายที่ได้ลงนาม MOU กันในวันนี้

Advertisement

ทั้งขั้นตอนการควบคุมตัวผู้ถูกเฝ้าระวังเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน การนำตัวผู้ถูกเฝ้าระวังไปส่งศาล การพัฒนาบุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่ และการสนับสนุนฐานข้อมูลทะเบียนประวัติราษฎร และเราจะไม่หยุดเพียงแค่ภารกิจตาม MOU ด้วยการขับเคลื่อนการเสริมสร้าง “กำลังใจ” ด้วยการวางระบบในการทำให้ผู้ที่จะกระทำผิดซ้ำได้รู้สึกมีคุณค่าที่จะอยู่ในพื้นที่ตำบล/หมู่บ้านที่เขาอาศัย

“พร้อมทั้งชักชวนให้พวกเขาได้เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับชีวิตและสังคมโดยรวม เช่น การเสริมสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ การร่วมกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรม งานประเพณีต่าง ๆ เพื่อเป็นการเสริมแรงบวก นอกเหนือจากการช่วยกันระแวดระวัง และหากมีเรื่องอื่นใดที่กระทรวงมหาดไทยสามารถช่วยเหลือในกิจกรรมงานกระทรวงยุติธรรมได้ เราพร้อมช่วยสนับสนุนอย่างเต็มกำลังความสามารถ” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image