พ่อโหดยังหลอนไม่หาย เตรียมให้ญาติคนเชื่อใจ ร่วมไขปมฆ่าลูก 3 ขวบ ลุงเผย เป็นญาติ “ฮาย อาภาพร”
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 มกราคม 2566 พ.ต.อ.นิวัติ พิพัฒนสิริ รอง ผบก.ภ.จว.นว. ได้เดินทางไปที่ สภ.ลาดยาวเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีพ่อโหดฆ่าลูก 3 ขวบ ทิ้งศพกลางไร่มันสําปะหลัง โดยใช้เวลาพูดคุยกับนายรณชัย ผู้ต้องหานานกว่า 30 นาที ซึ่งทางนายรณชัยก็มีท่าทีผ่อนคลายขึ้น แต่ยังคงให้การปฏิเสธ ไม่ได้ฆ่าลูก และไม่ได้ก่อเหตุใดๆเลย เพียงเจอผีจึงต้องหนีเท่านั้น หลังจากนั้นนายเจ (ทราบแต่เพียงชื่อเล่น) ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ได้เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาเยี่ยมน้องชาย ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า ตนเองทราบข่าว จึงเดินทางเอาข้าวเอาน้ำมาให้ด้วยความเป็นห่วง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นตนก็รับไม่ได้ และต้องการให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ซึ่งตนก็ทราบว่าน้องชายของตนเองเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเขาก็เคยเล่นยามานาน แถมยังเล่นหนักด้วย ตนจึงลาขาดกับน้องชายมาได้ 2 ปีแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.นิวัติ พิพัฒนสิริ รอง ผบก.ภ.จว.นว. ให้สัมภาษณ์สื่อว่าเบื้องต้นนายรณชัย ปานนนท์ ผู้ต้องหา ยังไม่รับสารภาพ เพราะเหมือนเจ้าตัวยังอยู่ในอาการเหมือนคนเมายา ซึ่งเจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธ ไม่ใช่บุคคลที่ฆ่าน้องเปียโน โดยอ้างวันเกิดเหตุอุ้มลูกออกจากห้องนอน เพราะเจอผีหลอก เลยรีบวิ่งหนี ก่อนทิ้งลูกในไร่ป่ามันสำปะหลัง จึงทำให้การสอบปากคำหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะมีการเชิญลุงหนอง ซึ่งเป็นคนที่นายรณชัยให้ความเคารพและสนิทรวมไปถึงไว้ใจด้วยมาร่วมสอบปากคำด้วย โดยหวังว่าเจ้าตัวจะไว้ใจลุงหนอง จนยอมเปิดปากให้ข้อมูลทุกอย่าง
ส่วนการตรวจสอบเรื่องจิตเวชนั้น พบว่า นายรณชัยมีประวัติรักษาจริง แต่ไม่ได้เป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาลมีบัตรประจำตัวผู้ป่วย เป็นเพียงผู้ป่วยกลุ่มสีขาวเท่านั้น ไม่มีความรุนแรงต่อสังคม ส่วนการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายของนายรณชัย ตอนนี้ไม่พบ จึงเป็นไปได้ว่านายรณชัยอาจทิ้งช่วงระยะในการเสพยาเสพติด จึงทำให้สารเจือจาง แต่สุดท้าย จากหลักฐานที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมหลักฐานต่างๆ ทั้งพยานแวดล้อม และวัตถุพยาน สามารถชี้ชัดว่านายรณชัยเป็นผู้ก่อเหตุจริง จึงสามารถเอาผิดกับเจ้าตัวได้แน่นอน เพราะพยานหลายคนยืนยันตรงกันว่า นายรณชัยอยู่กับน้องเปียโนเป็นคนสุดท้าย
ขณะที่ทีมชุดสืบสวนได้ให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวนนายรณชัยตลอดทั้งคืน ก็ยังให้การวกวนไปในแบบเดิม ว่าถูกผีหลอก พร้อมกับปฏิเสธไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่า แต่เมื่อนำรูปภาพที่น้องเปียโนถูกฆ่าดินยัดอุดปากไปให้เจ้าตัวดู ปรากฏว่า เจ้าตัวก็นิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง แต่ก็ไม่พูดอะไรเลย ส่วนในวันพรุ่งนี้ จะนำตัวนายรณชัย ส่งฝากขังเรือนจำนครสวรรค์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. นายสนอง ปานนนท์ หรือลุงหนอง อายุ 60 ปี ได้เดินทางมาที่ สภ.ลาดยาว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ เพื่อร่วมสอบปากคำนายรณชัย ตามที่ตำรวจได้มีการเชิญตัวมา โดยลุงหนองได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวก่อนว่า ตนเป็นลุงแท้ๆ ของนายรณชัย และเขาก็นับถือตนเป็นพ่ออีกคน ซึ่งปกติ เจ้าตัวเป็นคนที่นิสัยดีมากเลยนะ พูดจาเรียบร้อย ไม่เคยโหดร้ายรุนแรง หรือไปก่อเหตุ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร ส่วนเมื่อก่อน ยอมรับว่า เขาไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ และเคยติดยาเสพติดจนมีอาการทางประสาท เมื่อกลับมาอยู่บ้าน ตนก็คอยช่วยดูแลเขามาตลอด แต่ก็ไม่ถึงขนาดตามติดเขาทุกช่วงเวลา และเรื่องยาที่รักษาอาการทางประสาท ตนก็จะถามเขาทุกวันนะ ว่าทานรึยัง แล้วเขาก็จะตอบว่าทานแล้วตลอด แต่คนทานยาทุกวัน จะไม่เกิดอาการแบบนี้ เพราะตนสังเกตเจ้าตัวทุกวัน เวลาทานยา ก็จะเป็นคนปกติที่อารมณ์ดีมาก ชอบเปิดเพลงฟัง และร้องเพลงอยู่ตลอด ไม่มีลักษณะเป็นพิษเป็นภัยกับใคร
“พอผมทราบเรื่อง ก็รู้สึกตกใจมาก ผมเชื่อว่า เจ้าหลานตัวดีคงเยอะไปหน่อยนะ ผมคอยดูแลมัน แต่ก็ไม่ค่อยได้ตามติดมัน จึงเชื่อว่า มันคงจะไม่ได้ทานยารักษา และก่อนที่มันจะไปทำอะไรอย่างโหดเหี้ยม มันคงต้องไปเสพอะไรมาเยอะแน่ๆ ถึงทำให้มันหลอนแบบนี้”
เมื่อถามถึงความเกี่ยวพันกับ “ฮาย อาภาพร นครสวรรค์” นายสนองระบุว่า นายรณชัยมีศักดิ์เป็นหลาน แต่ก็ไม่รู้ว่าทางอีกฝั่ง เขารับนายรณชัยเป็นหลานหรือเปล่า ส่วนเรื่องอื่นๆ ตนไม่ขอพูดถึง และไม่ก้าวก่าย เพราะเรื่องนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับ ฮาย อาภาพรเลย
ขณะที่ญาติอีกคนให้ข้อมูว่า นายรณชัยเป็นหลานของ “ฮาย อาภาพร นครสวรรค์” จริง เนื่องจากแม่ของนายรณชัย มีศักดิ์เป็นพี่สาวของฮาย อาภาพร แต่ในเรื่องรายละเอียดที่ไปพบเจอว่า นายรณชัยนำกระดาษเขียนข้อความไปฝังดิน แล้วในกระดาษมีการระบุชื่อคนที่จะฆ่ายกครอบครัวนั้น ไม่ทราบรายละเอียด เพราะไม่เห็น ซึ่งก็ทราบแต่จากปากแม่ของนายรณชัยเพียงเท่านั้น