เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยกรณีการปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการปราบปราม โดยเฉพาะประเด็นการ์ดของร้านมาลินสกาย จ.เชียงใหม่ รุมทำร้าย นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือเจมส์บอน อายุ 23 ปี ลูกชาย พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 (ผบ.มทบ.38) จนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่กำลังเป็นที่สนใจของสังคมว่า เรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอยู่แล้ว ขณะนี้ผับดังกล่าวถูกสั่งปิดไปแล้ว คาดว่ากลุ่มคนดังกล่าวไม่น่าจะใช่ผู้มีอิทธิพล เพราะหากมีอิทธิพลจริง ผับจะถูกสั่งปิดได้อย่างไร
รองผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยในพื้นที่จ.เชียงใหม่นั้น เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จึงมีโอกาสเกิดเหตุมาก ในฐานะดูความมั่นคงจะพิจารณาในมิติเจ้าของร้านมีการข่มขู่หรือไม่อย่างไร พร้อมยืนยันว่าหากพบว่าเป็นผู้มีอิทธิพลจริงทางกองทัพน่าจะไม่ปล่อยเอาไว้ และทางตำรวจเองจะมีมาตรการบังคับใช้กฎหมาย100เปอร์เซ็นต์ โดยกำชับกวดขันบังคับใช้กฎหมายทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องไม่ให้มีผู้มีอิทธิพล ขณะนี้ยังไม่พบว่ากลุ่มคนที่เกิดเรื่องทำร้ายร่างกายที่ร้านมาลินสกาย มีรายชื่อในบัญชีผู้มีอิทธิพลแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ออกมาย้ำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้นำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้ได้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เรื่องนี้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รรท.รองผบช.ภ.1 ให้พิจารณาในส่วนนี้ว่าจะทำอย่างไร แต่ขั้นตอนปฏิบัติตนคงไปควบคุมด้วยตนเองตามที่ ผบ.ตร.สั่งการ ส่วนการตรวจสอบเส้นทางการเงินของคนกลุ่มนี้นั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคดีแล้วได้มีการแจ้ง ป.ป.ง.ไปแล้ว ส่วนกรณีที่มีตำรวจ ยศ พ.ต.ต. มาเกี่ยวข้องและช่วยเหลือกลุ่มคนที่รุมทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏในโลกเชียลนั้น ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
