“เสี่ยห้างทอง”แจ้งความกลับ ปธ.บริษัทอสังหาฯ ปมเงินประกันซื้อทองแท่ง15ล้าน

นายเอกลักษณ์ ปัญญาสกุลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอส พี เรียลเอสเตท จำกัด

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 1 ธันวาคม ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายเอกลักษณ์ ปัญญาสกุลวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอส พี เรียลเอสเตท จำกัด บุตรชายนายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.วิทวัส สายอ๋อง สารวัตร (สอบสวน) กก.2 บก.ป.เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีแจ้งความดำเนินคดีกับ2ผู้บริหารห้างทองแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.นนทบุรี ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์

นายเอกลักษณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีเพิ่มเติมในข้อหาฉ้อโกงประชาชน หลังจากพบว่ามีการโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนทองคำผ่านทางเฟซบุ๊ก รวมทั้งมีผู้เสียหายรายอื่นอีก3คน ถูกหลอกให้ลงทุนฝากทองคำมูลค่าหลายล้านบาท ในวันนี้จึงได้ถือโอกาสพาตัวแทน หนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกหลอกลงทุนออกมาชี้แจงและเป็นพยานในคดีนี้ด้วย เนื่องจากได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีที่สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ไว้ก่อนหน้านี้

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่นายเอกลักษณ์ กำลังชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับคดีกับสื่อมวลชนอยู่นั้น คู่กรณีทั้ง2คนของนายเอกลักษณ์ เดินทางมายัง บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกลับทางนายเอกลักษณ์คู่กรณี พร้อมกับพูดชี้แจงเกี่ยวกับข้อพิพาทในกรณีดังกล่าวต่อสื่อมวลชนอีกด้วย

โดยคู่กรณีนายเอกลักษณ์ กล่าวว่า ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับคดีดังกล่าว รวมถึงแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอกลักษณ์ ในข้อหาแจ้งความเท็จ ที่ผ่านมาการที่นายเอกลักษณ์ออกมากล่าวหาว่าตนยักยอกเงินประกันซื้อขายทองคำแท่ง 15 ล้านบาท นั้น ส่งผลกระทบต่อธุรกิจร้านทองเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิดตามที่นายเอกลักษณ์กล่าวอ้าง ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถคืนเงินประกัน15ล้านบาทให้กับนายเอกลักษณ์ เพราะ ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ อย่างไรก็ดี ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายเอกลักษณ์ ในข้อหาข่มขู่ ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

Advertisement

ขณะที่ นายเอกลักษณ์ กล่าวภายหลัง ว่า ที่ถูกกล่าวหาว่าไปข่มขู่ครอบครัวและพนักงานร้านของเขานั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.ต.วิทวัส กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆรวมถึงเอกสารเกี่ยวกับธุรกรรมการโอนเงินของทั้ง2ฝ่าย เบื้องต้นเตรียมประสานไปยังธนาคารเพื่อสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องพร้อมกับประสานขอเอกสารการทำธุรกรรมการโอนเงินของทั้งสองฝ่ายเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ นายดำรงชัย ได้นำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและเอกสารการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับกรณีพิพาทดังกล่าวมามอบให้พนักงานสอบสวน หลังจากนี้จะพิจารณานำเข้าประกอบในสำนวนคดีนี้ต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image