จากกรณีเหตุเพลิงไหม้โรงงานสิ่งทอในนครการาจี มียอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 289 ราย นับเป็นเหตุเพลิงไหม้ครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายสิบปีในเมืองใหญ่ที่สุดของปากีสถาน
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 2 ธันวาคม พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรนาม รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ชัยฎิภูมิ อำนวยกุล พ.ต.ท.พารินท จันทร์เลิศ พ.ต.ท.สุทธิชัย ไชยรัตน์ พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รองผกก.5บก.ป. พ.ต.ท.ศันสนะ พิริยะจิตตะ สว. กก.5 บก.ป. สนธิกำลัง พ.ต.ท.ชัย สงวนสิน รองผู้กำกับการฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 3 ดูแลงานด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร.ท.ศุภชัย พรหมเป็ง ผู้บังคับหมวดรักษาความสงบทื่ 1 กองร้อยรักษาความสงบที่ 2 กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองศ์ (มว.รส.ที่ 1 ร้อยรส.ที่ 2 ม พัน 1 รอ.) นำกำลังตำรวจกก.5บก.ป. คอมมานโดกองปราบปราม ตำรวจสากล รวมกว่า 40 นาย นำหมายค้นและหมายจับเข้าตรวจสอบห้องเลขที่ 405 ชั้น 4 ของโรงแรมรอยัล การ์เด้น โฮม เลขที่ 63/1-4 ซอยนานาเหนือ ถนนสุขุมวิท 3 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา หลังได้รับการประสานจากตำรวจอินเตอร์โพลว่าหนึ่งในคนร้ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางเพลิงเผาโรงงานทอผ้าที่ประเทศปากีสถาน ได้หลบหนีมากบดานที่ประเทศไทย
จากการเข้าตรวจสอบสามารถจับกุมนายอับดุล ระมานห์ (Abdul rehman) อายุ 46 ปี ชาวปากีสถาน บุคคลตามหมายจับ นำส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินีดำเนินคดีต่อไป
พ.ต.ท.ชัย สงวนสิน รองผู้กำกับการฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 3 ดูแลงานด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ กองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการประสานจากตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล ว่าผู้ต้องหาร่วมกับพวกเป็นชาวปากีสถาน กลุ่มดังกล่าวถือเป็นองค์กรอาชญากรรมรายใหญ่ในประเทศปากีสถาน และมีพฤติกรรมเรียกเก็บค่าคุ้มครองสถานประกอบการรายใหญ่ๆ ในประเทศ โดยก่อนเกิดเหตุวางเพลิงโรงงานดังกล่าว กลุ่มผู้ต้องหาได้เรียกเก็บเงินค่าคุ้มครองจากเจ้าของโรงงานจำนวน 7 ล้านบาท แต่เจ้าของโรงงานไม่ยอมจ่าย จึงก่อเหตุเผาโรงงานทำให้มีพนักงานในโรงงานเสียชีวิตร้อยกว่า200 ศพ ถือเป็นโศกนาฏกรรมลอบวางเพลิงที่รุนแรงอันดับที่ 6 ของโลก ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าหนึ่งในผู้ต้องหาได้หลบหนีเข้าไทยเมื่อ2สัปดาห์ที่แล้ว โดยผ่านช่องทางผิดกฎหมาย เจ้าหน้าจึงแกะรอยพบว่ามากบดานอยู่ในโรงแรมดังกล่าว กระทั่งนำกำลังเข้าจับกุมดังกล่าว
ด้านพล.ต.ต.สุทิน กล่าวว่า ศาลต่อต้านการก่อการร้าย เมืองการาจี ได้ออกหมายจับผู้ต้องหารายนี้ ตามหมายจับเลขที่ AKTC-II-K-D-1455-2016 ลงวันที่ 16 กันยายน 2559 ภายหลังการออกหมายจับทางการประเทศปากีสถานสืบทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีออกนอกประเทศ โดยเดินทางมาประเทศไทย จึงประสานข้อมูลมาทางกองการต่างประเทศ ก่อนที่ทางตำรวจกองการต่างประเทศจะประสานขอกำลังตำรวจบก.ป. ร่วมกันสืบสวนสอบสวน จนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เดินทางเข้ามาพักที่โรงแรมดังกล่าว ชุดสืบสวนจึงรายงานพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก่อนลงนามในคำสั่งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพิกถอนการอยู่ต่อในราชอาณาจักรไทยตามขั้นตอน ก่อนนำกำลังตำรวจกก.5 บก.ป. ตำรวจกองการต่างประเทศ เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ห้องพักดังกล่าว จากการเข้าตรวจค้นในห้องพักเบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ได้เก็บหลักฐานอื่นๆเช่นเสื้อผ้า เอกสารที่อาจจะเกี่ยวข้อง เพื่อนำตรวจสอบ นอกจากนี้ยังได้รวบรวมก้นบุหรี่ที่อยู่ในห้องพักส่งมอบให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจหาดีเอ็นเอแฝง เพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป
คดีนี้สืบเนื่องมาจากองค์การตำรวจสากลประสาน พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา หัวหน้าตำรวจสากลประเทศไทยให้ดำเนินการสืบสวนติดตามคนร้ายรายนี้ตามหมายจับขององค์การตำรวจสากลซึ่งประเทศปากีสถานได้ร้องขอไว้ โดยข้อเท็จจริงตามหมายปรากฏว่า เมื่อเดือนกันยายน 2555 คนร้ายได้เรียกค่าคุ้มครองจากโรงงานทอผ้าแห่งหนึ่งในเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นประมาณ 7 ล้านบาทไทย เจ้าของโรงงานพยายามต่อรองลดจำนวนเงินลง แต่ผู้ต้องหากับพวกไม่ยอม และได้เผาโรงงานทอผ้าแห่งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทันที 289 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนไม่น้อย ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าสลดครั้งหนึ่งของโลก ต่อมาพล.ต.ต.อภิชาติฯ ได้นำเรียน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กระทั่งผบ.ตร.สั่งการ พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รรท.รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานต่างประเทศ ให้เข้าควบคุมกำกับการสืบสวนติดตามคนร้ายรายนี้ ซึ่ง พล.ต.อ.สุเทพ ได้สั่งการให้ตำรวจสากลประสานตำรวจสากลปากีสถานอย่างใกล้ชิดเพื่อนำข้อมูลมาทำการสืบสวน และจากการประสานกับ สตม. บนพื้นฐานของข้อมูลที่ได้รับมา จึงทราบว่าคนร้ายรายนี้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้บูรณาการกำลังทันทีประกอบด้วยหน่วยคอมมานโดจากกองปราบปรามนำทีมโดย พล.ต.ต.สุทิน พ.ต.อ. ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.หน่วยคอมมานโด ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และจากกองการต่างประเทศในฐานะสำนักงานกลางตำรวจสากลไทย นำทีมโดย พ.ต.ท. ชัย เข้าปิดล้อมตรวจค้นโรงแรมดังกล่าวทันที และสามารถเข้าจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ในที่สุด
พล.ต.อ. จักรทิพย์ กล่าวภายหลังการจับกุมว่า ด้วยนโยบายด้านความมั่นคงที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงให้ไว้อย่างชัดเจน สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะไม่ยอมให้ประเทศไทยเป็นสถานที่หลบซ่อนและเป็นแหล่งพักพิงของอาชญากรข้ามชาติอย่างเด็ดขาด โดยจะให้ความร่วมมือและทำงานอย่างใกล้ชิดกับองค์การตำรวจและประเทศสมาชิกทั้ง 190 ประเทศต่อไปในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่ปลอดภัย น่าท่องเที่ยว และมีบรรยากาศที่น่าลงทุนมากที่สุดในอาเซียน
