เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ธันวาคม ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายอดุลย์ เฉตวงษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 เจ้าของสำนวนพิจารณาคดีที่นายพิชัย วีระสิทธิกุล เจ้าของอู่รถ ผู้ต้องหาที่ 1 พระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ เลขานุการสมเด็จช่วงและผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ กับพวกรวม 7 คน จากกรณีเลี่ยงภาษีนำเข้ารถยนต์เบนซ์โบราณ ทะบียน ขม 99 กรุงเทพมหานคร เป็นรถในความครอบครองของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญญมหาเถร ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ ว่า ในวันนี้ทางพนักงานอัยการมีคำสั่งให้เลื่อนการนัดสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 19 ธันวาคม เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางอัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนดีเอสไอสอบสวนเพิ่มเติมในบางประเด็น ขณะนี้ทางดีเอสไอยังไม่ส่งผลสอบเพิ่มเติมกลับมา จึงต้องเลื่อนการนัดสั่งคดีไปก่อน ส่วนในวันนี้มีผู้ต้องหาบางคนเดินทางมาเพื่อรับทราบนัด ส่วนพระมหาศาสนมุนี ได้มอบอำนาจให้ทีมทนายความมารับทราบนัดเเทน
นายอดุลย์ กล่าวว่า สำหรับการเลื่อนนัดสั่งคดีในวันนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับหนังสือร้องขอความเป็นธรรม หรือหนังสือร้องให้เลื่อนการสั่งคดีออกไปก่อนจากทนายความของพระมหาศาสนมุนีแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางอัยการสั่งให้ดีเอสไอสอบเพิ่มเติมในบางประเด็นอยู่แล้ว แต่หนังสือที่ผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาเรามีการนำมาพิจารณาด้วย แต่คาดว่าถ้าได้ผลสอบเพิ่มมาจากดีเอสไอจะสามารถสั่งคดีได้เลย ส่วนจะทันในวันที่ 19 ธันวาคมเป็นวันนัดสั่งคดีอีกครั้งหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ แต่ทางอัยการนัดผู้ต้องหาทุกคนให้เดินทางมาเพื่อนัดสั่งคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีนี้ ดีเอสไอ สรุปความเห็นควรสั่งฟ้อง โดยกล่าวหา นายพิชัย วีระสิทธิกุล เจ้าของอู่รถ ผู้ต้องหาที่ 1 , ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซี.ที.ออโต้พาร์ท โดยนายวสุ จิตติพัฒนกุลชัย ผู้ต้องหาที่ 2 , นายวสุ จิตติพัฒนกุลชัย ผู้ต้องหาที่ 3 , นายเกษม หรือ อ๊อด ภวังคนันท์ หุ้นส่วนผู้จัดการ หจก.อ๊อด 89 เอ็นเตอร์ไพร์ส ( ประเทศไทย) ซึ่งนำเข้าชิ้นส่วนรถโบราณ ผู้ต้องหาที่ 4 ,นายเมธีนันท์ หรือชลัช นิติฐิติวงษ์ ผู้ดำเนินการนำเอกสารชุดประกอบรถยนต์ไปชำระภาษีสรรพสามิต ผู้ต้องหาที่ 5 , นายสมนึก บุญประไพ ผู้นำเอกสารรถยื่นกรมขนส่ง ผู้ต้องหาที่ 6 และพระมหาศาสนมุนี หรือหลวงพี่แป๊ะ เลขานุการสมเด็จช่วงและผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำฯ ผู้ต้องหาที่ 7 ในความผิด 6 ข้อหา ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 , 27 ทวิ , พ.ร.บ.ภาษีสรรพาสามิต พ.ศ .2527 มาตรา 161 , 165 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137 , 265 , 267 , 268
