เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่ของศาลยุติธรรมและอดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย ในข้อหาหมิ่นประมาททำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จากกรณีนายองอาจ แถลงต่อสื่อมวลชน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ว่านายวิฑูรย์ ไม่มีคุณสมบัติในการเป็นผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่วิเคราะห์แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ กรณีการสร้างสถานปฏิบัติธรรมของวัดพระธรรมกายทั้ง 2 แห่ง จนนำมาสู่การออกหมายจับพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าดังกล่าว
โดยนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนได้ดำเนินการตามหลักวิชาการที่ได้เรียนมาจนจบการศึกษาระดับปริญญาเอกทางด้านป่าไม้ และการวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศและแผนที่ก่อนจะขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาลตั้งแต่ปี 2534 ส่วนสาเหตุของการถูกไล่ออกจากราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีคำสั่งให้สอบสวนทางวินัยร้ายแรงเพราะเหตุผลส่วนตัวที่ตนมีคดีความกับนายโชติ ตราชู อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ กับพวกมาก่อน ในกรณีให้ความเห็นแปลภาพถ่ายทางอากาศคลาดเคลื่อนจนทำให้กรมป่าไม้เสียหาย และถูกกล่าวหาว่าเบิกเบี้ยเลี้ยงในการเดินทางไปต่างจังหวัดเกินไปหนึ่งวัน คำสั่งไล่ออกจากกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ยังไม่มีการสรุปผล
นายวิฑูรย์ กล่าวต่อว่า วันนี้เดินทางมาแจ้งความในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทกับนายองอาจ การให้สัมภาษณ์ของนายองอาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อวงศ์ตระกูลและยืนยันว่าตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และจะดำเนินคดีในทางแพ่งต่อไป ส่วนการขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะนี้ได้ยื่นขอต่อทะเบียนไปยังสำนักงานศาลยุติธรรมและอยู่ระหว่างการพิจารณา สำหรับการเข้าไปตรวจสอบใน 2 พื้นที่ คือศูนย์ปฏิบัติธรรมป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย และศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิลด์พีชวัลเลย์ จ.นครราชสีมา เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ในสมัยที่ยังดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมป่าไม้ว่ามีการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่า จนนำไปสู่การดำเนินคดีมากกว่า 80 คดี ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการตรวจสอบด้วยอคติ
