แชร์-จำนำรถ-หวย โยง ‘แอม ไซยาไนด์’ เผยคดีก้อยดับ คืบ 80% รอหลักฐานสำคัญ

รองผู้การกองปราบ เผยคดี ‘ก้อย’ เสียชีวิตปริศนา คืบหน้ากว่า 80% รอหลักฐานสำคัญเพิ่ม ส่วนการสอบปากคำพยาน 5 คน วานนี้ ค่อนข้างเป็นประโยชน์

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวนคดี นางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาคดีไซยาไนด์ ทำให้ น.ส.ศิริพร หรือก้อย เท้าแชร์ อายุ 33 ปี เสียชีวิต ในพื้นที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยหลังการประชุมนาน 2 ชั่วโมง

พ.ต.อ.เอนกเปิดเผยว่า คดี “ก้อย” มีความคืบหน้าไปกว่า 80% ขณะนี้รอพยานหลักฐานสำคัญเพิ่มเติมมาประกอบสำนวนคดีให้สมบูรณ์มากขึ้น และยังไม่พบว่าผู้อื่นมีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนการสอบปากคำพยานสำคัญทางคดีทั้ง 5 คน เมื่อวานนี้ ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทำให้ชุดคลี่คลายคดีสามารถมองเห็นทิศทาง รูปแบบการกระทำผิดมากขึ้นกว่าเดิม

ขณะที่เส้นทางการเงิน เบื้องต้นพบส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการกู้ยืมเงินวงแชร์และจำนำรถยนต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับคดีทางอาญาที่เกิดขึ้นอย่างไร และมีผู้อื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำธุรกิจหวยใต้ดิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนเรื่องการออกหมายจับในคดีอื่นๆ ทราบว่าทางตำรวจท้องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเรื่องทางตำรวจกองปราบฯและตำรวจพื้นที่ ได้ประสานข้อมูลพยานหลักฐานร่วมกันมาโดยตลอด จนทำให้คดีรุดหน้าไปมาก ส่วนกระแสข่าวว่ารอง ผกก. อดีตสามี “แอม” มีส่วนร่วมกระทำผิดด้วยนั้น เป็นเรื่องที่คาดเดากันไปเอง เพราะจากข้อมูลพยานหลักฐานในตอนนี้ยังไม่พบข้อมูลการร่วมกระทำผิด ยืนยันว่าขณะนี้มีผู้เสียหายที่เสียชีวิตทั้งหมด 14 ราย และผู้รอดชีวิต 1 คน ที่ถูกเข้าในสำนวน และออกหมายจับไปแล้ว 3 คดี

Advertisement

แต่ในส่วนที่มีคลิปเผยแพร่ในโซเชียล ว่าอดีตสามีของผู้ต้องหาช่วยพูดคุยกับผู้เสียหายที่โดนหลอกทำธุรกิจหวยใต้ดินกับ “แอม” ถูกสงสัยว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ พ.ต.อ.เอนกกล่าวว่า ขอตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง หากพบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย

รายงานข่าวแจ้งว่า จากชุดสืบสวนของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ว่าสามารถตรวจพบรถของนายแด้ อดีตสามีที่เสียชีวิต เป็นรถเก๋งสีขาว ยี่ห้อ เชฟโรเลต ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่ามีบุคคลปริศนาขับรถคันดังกล่าวไปรับ “แอม” ที่จังหวัดอุดรธานีในช่วงที่เสียชีวิตเพื่อกลับมาที่จังหวัดนครปฐม ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าคนที่ขับรถเป็นใคร โดยพรุ่งนี้ (2 พ.ค.) ที่สโมสรตำรวจ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมพนักงานทุกส่วน คือ ในส่วนของกองบังคับการปราบปรามและกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในเวลา 10.00 น.

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image